การขับรถในช่วงฤดูฝน มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนหลายรูปแบบ เนื่องจากสภาพถนนที่เปียกลื่น
มีน้ำท่วมขัง และบางแห่งอาจเกิดดินถล่มปิดทับเส้นทาง เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีการแก้ไขเหตุฉุกเฉินเมื่อขับรถในช่วงฤดูฝน ดังนี้
ทำอย่างไร…เมื่อรถเหินน้ำ ให้ปฏิบัติ ดังนี้
ไม่เร่งความเร็ว เพราะจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงชะลอความเร็ว โดยค่อยๆ ถอนคันเร่ง เนื่องจากล้อไม่มีแรงเสียดทานจับพวงมาลัยให้มั่น เพื่อควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางแตะเบรกเบาๆ เมื่อต้องการหยุดรถ จะช่วยยึดเกาะถนนได้ดีไม่กระชากหรือหักพวงมาลัยอย่างเร็ว เพราะรถจะหมุนออกนอกเส้นทางหรือพลิกคว่ำได้
ทำอย่างไร…เมื่อขับรถเส้นทางน้ำท่วม ให้ปฏิบัติ ดังนี้
ประเมินเส้นทาง เพื่อคาดการณ์ความสูงของระดับน้ำและความแรงของน้ำปิดเครื่องปรับอากาศ ป้องกันพัดลมแอร์พัดน้ำเข้าไปในห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์หรือระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ขัดข้องใช้ความเร็วต่ำ รักษาความเร็วอยู่ในระดับเดียวกันอย่างสม่ำเสมอไม่เร่งเครื่อง จะทำให้ความร้อนสูง ใบพัดระบายความร้อนทำงานหนัก และน้ำเข้าห้องเครื่องมาก ทำให้เครื่องยนต์ดับลดการใช้เบรก โดยใช้แรงเฉื่อยของเครื่องยนต์ในการหยุดหรือชะลอความเร็วรถ
การขับรถผ่านเส้นทางในด้านต่างๆ ให้ปฏิบัติ ดังนี้
ระดับน้ำท่วมผิวถนน ไม่ขับรถเร็ว ไม่เร่งเครื่องยนต์ และรักษาความเร็วรถอย่างสม่ำเสมอ ระดับน้ำท่วมใต้ท้องรถ ขับรถช้าๆ โดยขับตามใบแนวการขับของคันหน้า ให้อยู่ในจุดที่ระดับน้ำต่ำที่สุดระดับน้ำท่วมสูง ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ไม่ฝืนขับรถในเส้นทางเด็ดขาด
ทำอย่างไร…เมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่เคยมีดินถล่ม ให้ปฏิบัติ ดังนี้ขับรถด้วยความระมัดระวังและไม่ขับชิดไหล่ทาง เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายจากหินหล่นหรือดินสไลด์ปิดทับเส้นทางสังเกตสภาพแวดล้อมริมทาง อาทิ ระดับน้ำในร่องน้ำเพิ่มสูงขึ้น และมีเสียงกับเดียวภูเขา หรือมีร่องรอยดินสไลด์ตามไหล่ทาง ให้หยุดพักรถบริเวณที่ปลอดภัย
เมื่อพบเห็นดินถล่มปิดทับเส้นทาง ให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอความช่วยเหลือ ไม่ควรฝืนขับรถในเส้นทางที่ดินถล่ม เพราะอาจเกิดอันตรายได้
ทั้งนี้ หลังการขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม ผู้ขับขี่ควรจะต้องตรวจสอบเครื่องยนต์และระบบจ่ายไฟ หากรถมีอาการผิดปกติ ควรจะนำรถไปตรวจสอบสภาพก่อนนำไปใช้งาน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
ร่วมแสดงความคิดเห็น