เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (18 ส.ค.64) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส. ภ.5 ได้ร่วมกันควบคุมตัว นางศีดา อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ เลขที่ จ.519/2564 และศาลจังหวัดสิงห์บุรี ที่ มจ.48/2564 ข้อหา ฉ้อโกง และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาทำการสอบสวนและแถลงข่าวจากกรณีที่ทางผู้ต้องหา สาวรายนี้ทำการหลอกลวงเหยื่อขายสินค้าออนไลน์ ทั่วประเทศมากกว่า 25 ราย โดยหลอกลวง ให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีสินค้าจริงแล้วให้ผู้เสียหายโอนเงินจ่ายค่าสินค้าไปยังบัญชีของตัวเอง ก่อนจะ เชิดเงินหลบหนี พบว่ามีมูลค่าความเสียหายประมาณ 282,610 บาท และทีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี แต่ทางเจ้าตัวได้หลบหนีกบดานในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด พร้อมด้วยของกลางเป็นสมุดบัญชีของธนาคารต่างๆ หลายเล่มและโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
ทั้งนี้จากการสอบสวนทางด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนได้เปิดเฟสบุ๊ก ชื่อเพจว่า “Kutd Uf” ขายของออนไลน์ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าและสินค้าอีกหลายชนิด ทำมาได้ประมาณ 1 ปีเศษ โดยตอนแรกก็มีสินค้าขายให้ลูกค้าตลอด จนกระทั่งช่วงหลัง ตนได้นำเงินไปใช้จ่าย ประกอบกับมีหนี้สิน ทำให้หมุนเงินไม่ทัน แต่พบว่ามีลูกค้าและผู้เสียหายยังมีการสั่งสินค้ากับตน จึงลวงว่ามีสินค้าอยู่ และได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินมาให้ แต่ก็ไม่ส่งสินค้าตามที่ตกลง หลังจากนั้นก็ทำการปิดเฟสบุ๊ก บล็อคแชท และช่องทางติดต่อ ส่วนเงินที่ได้มานั้นก็นำมาใช้จ่าย และเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากตนมีลูกแล้ว 1 คน โดยอาศัยอยู่ที่บ้านแฟนในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จนต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามมาจับกุมตัวในที่สุด
ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหารายนี้ สืบเนื่องมาจากมีผู้เสียหายหลายรายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่จำนวนมาก หลังจากสืบทราบพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดตามจับกุมตัวในทันที โดยจากการสอบถามทางเจ้าตัวเบื้องต้นก็ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง และจากการตรวจสอบตอนนี้พบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกหญิงสาวรายนี้ก่อเหตุทั่วประเทศประมาณ 25 ราย และมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 200,000 กว่าบาท และคาดว่ายังมีผู้เสียหายที่เหลืออีกจำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลต่อ
ขณะเดียวกัน อยากฝากแจ้งเตือนกับประชาชนที่ชอบสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ หรือโซเชีย ด้วยว่า การซื้อสินค้ากับบุคคลเหล่านี้มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ และควรมีหลักฐานตรวจสอบติดตามได้ชัดเจน รวมไปถึงสินค้าที่สั่งซื้อมานั้นตรงตามที่มีการโพสต์โฆษณาหรือไม่ หรือหากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรสั่งสินค้าผ่านทางออนไลน์เนื่องจากตรวจสอบได้ยากและไม่รู้ว่าจะได้สินค้าตรงตามที่ต้องการด้วยหรือไม่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและที่ผ่านมาก็พยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงผลเสียที่เกิดขึ้นนี้ด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น