โครงการทหารพันธุ์ดี กองทัพภาคที่ 3 ปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร

วันที่ 20 สิงหาคม 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 146 ศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณให้ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ร่วมกับ กองทัพภาคที่ 3 จัดตั้งโครงการทหารพันธุ์ดี ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ให้ข้าราชการและทหารกองประจำการที่มีความสนใจด้านการเกษตร ได้มีโอกาสเรียนรู้ขั้นตอนและกระบวนการปลูกผักอินทรีย์ที่ปลอดภัย ซึ่งหน่วยทหารในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้ดำเนินการทำเกษตรอินทรีย์, การปศุสัตว์ และการประมง เพื่อเป็นแหล่งความมั่นคงทางด้านอาหารแก่ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ อีกทั้งยังมีพระราชประสงค์ให้ผลิตเมล็ดพันธุ์ผักสะสมสำรองไว้ เพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์พระราชทานแก่ราษฎรทั่วไป และราษฎรในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ นับเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ล่วงหน้า นั้น

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่อย่างรุนแรงในช่วงเดือนเมษายน 2564 กองทัพภาคที่ 3 จึงได้มอบหมายให้ กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ริเริ่มปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อนำไปเป็นยารักษาโรคโควิด-19 โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังนี้

1) เพื่อขยายพันธุ์เพิ่ม สำหรับปลูกทดแทนและขยายพื้นที่การปลูก รวมทั้งเพื่อมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร แก่กำลังพล, ครอบครัว, ประชาชนทั่วไป รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่สนใจนำไปเป็นยาสมุนไพรรักษาโรค โควิด-19

2) เพื่อนำฟ้าทะลายโจรไปแปรรูปเป็นยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 โดยร่วมกับวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีสถานที่และเครื่องมือการแปรรูปที่ได้มาตรฐาน

สำหรับ “ฟ้าทะลายโจร” เป็นพืชล้มลุก สูงประมาณ 30 – 70 เซนติเมตร มีรสขมทุกส่วน ออกดอกเป็นช่อ กลีบดอกสีขาว มีผลเป็นฝักสีน้ำตาล มีเมล็ดอยู่ด้านใน เป็นสมุนไพรที่มีผลการวิจัยรองรับและเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติสมุนไพร โดยมีข้อบ่งชี้สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่รุนแรงต่อไป โดยมีสาระสำคัญ “Andrographolide” ในการยับยั้งการเข้าสู่เซลล์และยับยั้งการจำลองแบบของสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส โดยรับประทานยาเม็ดฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณของสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งรับประทานวันละ 3 ครั้ง ต่อเนื่อง 5 วัน

การดำเนินกรรมวิธีปลูกฟ้าทลายโจร ของโครงการทหารพันธุ์ดี กองทัพภาคที่ 3 โดย กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 มีรายละเอียดดังนี้

1. การขยายพันธุ์พืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร มี 2 วิธี ได้แก่

1.1 ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ใช้เมล็ดจากฝักแก่จัดที่มีสีน้ำตาลแดง ลักษณะสมบูรณ์ ปราศจากโรคและแมลง ก่อนปลูกนำเมล็ดแช่น้ำที่อุณหภูมิห้อง 6-12 ชั่วโมง จากนั้นนำมาหว่าน (นำเมล็ดมาผสมทรายหยาบ อัตรา 1 : 1-2) หรือนำมาโรยเมล็ด (โรยเป็นแถวขุดร่องตื้นๆ เป็นแถวยาว โดยมีระยะห่างระหว่างแถว ประมาณ 40 เซนติเมตร โรยเมล็ดกลบดินบางๆ)

1.2 การเพาะกล้า ขุดหลุมกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ลึกประมาณ 8-12 เซนติเมตร เป็นแถว ระยะห่างระหว่างต้น 20-30 เซนติเมตร และระหว่างแถว 40 เซนติเมตร

2. การเก็บเกี่ยว : เก็บเกี่ยวระยะเริ่มออกดอก ถึงระยะดอกบาน 50% หรืออายุต้นหลังปลูก ประมาณ 90 วัน เพื่อให้มีสารสำคัญในการออกฤทธิ์สูง และควรเก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเช้า

3. วิธีเก็บเกี่ยว : ตัดทั้งต้นเหนือดินประมาณ 5-10 เซนติเมตร

4. สายพันธุ์ที่เพาะปลูก : ดำเนินการตามคำแนะนำของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการปลูก 2 สายพันธุ์ ที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์สูง ได้แก่

4.1 สายพันธุ์พิจิตร 4-4 มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ มากถึง 12.20 กรัมต่อน้ำหนักแห้ง 100 กรัม

4.2 สายพันธุ์พิษณุโลก 5-4 มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ มากถึง 8.89 กรัมต่อน้ำหนักแห้ง 100 กรัม

จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมที่จะสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ทางทหาร รวมทั้งบูรณาการศักยภาพทางการทหารในทุกๆ ด้านของกองทัพบก เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากวิกฤตทุกโอกาส

ร่วมแสดงความคิดเห็น