วันที่ 21 ส.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่ามีการ ตรวจพบ ข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ
กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ผลิตภัณฑ์ Minzon+ หรือ มินซอน พลัส เลขทะเบียนที่ G 66/36 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีผลิตภัณฑ์ Minzon+ เลขทะเบียนที่ G 66/36 ที่จำหน่ายในอินเทอร์เน็ต ระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ซึ่งฉลากผลิตภัณฑ์แสดงข้อมูล Minzon+ มินซอน พลัส สรรพคุณ สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านหวัด ปรับอุณหภูมิร่างกาย เลขทะเบียนยา G 66/36 ส่วนประกอบใน 1 แคปซูล ฟ้าทะลายโจร 250 มก. มะขามป้อม 30 มก. ขิง 40 มก. กระเทียม 30 มก. วิตามินซี 30 มก. แคปซูล 90 มก. จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสวมเลขทะเบียนตำรับยาฟ้าทะลายโจรแคปซูล ของผลิตภัณฑ์อื่น จึงขอเตือนประชาชนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมารับประทาน
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เลขทะเบียนที่ G 66/36 ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาในชื่อ ยาฟ้าทะลายโจร แคปซูล ชื่อผู้รับอนุญาตผลิตคือ นางสาวสุดสายธรรม (สงวนนามสกุล) สถานที่ผลิตคือ ชุมชนปฐมอโศก หมู่ 5 ตำบลพระประโทน อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม สรรพคุณ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไข้ตัวร้อน ซึ่งในสูตรที่ได้รับอนุญาตมีเพียงฟ้าทะลายโจรเป็นส่วนประกอบเท่านั้น ไม่มีมะขามป้อม ขิง กระเทียม และวิตามินซี เป็นส่วนประกอบแต่อย่างใด
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สามารถติดตามได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือโทรสายด่วน อย. 1556
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ผลิตภัณฑ์ Minzon+ หรือ มินซอน พลัส สวมเลขทะเบียนตำรับยาฟ้าทะลายโจรแคปซูล ของผลิตภัณฑ์อื่น โดยเลขทะเบียนที่ G 66/36 ได้รับอนุญาตในชื่อ ยาฟ้าทะลายโจร แคปซูล ซึ่งในสูตรที่ได้รับอนุญาตมีเพียงฟ้าทะลายโจรเป็นส่วนประกอบเท่านั้น ไม่มีมะขามป้อม ขิง กระเทียม และวิตามินซี เป็นส่วนประกอบแต่อย่างใด
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
ร่วมแสดงความคิดเห็น