ข่าวปลอม ! กรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลทางโซเชียลมีเดียเรื่อง โรงงานนิคมอุตสาหกรรม จ. ลำพูน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนเกือบ 1,000 ราย

วันที่ 21 ส.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจพบข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลทางโซเชียลมีเดียเรื่อง โรงงานนิคมอุตสาหกรรม จ. ลำพูน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนเกือบ 1,000 ราย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดลำพูน พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากการพบว่ามีผู้ให้ข้อมูลระบุว่าที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรม จ. ลำพูน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก เกือบ 1,000 ราย นั้น ทางสำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดลำพูนได้ชี้แจงรายละเอียดว่า จากการตรวจสอบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในโรงงานดังกล่าว พบว่า มีผู้ติดเชื้อจำนวน 77 ราย ไม่ใช่จำนวนเกือบพันรายอย่างที่ต้นโพสต์กล่าวอ้างแต่อย่างใด

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดลำพูน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.lamphun.go.th/advertise  หรือโทร 053 530 683

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : จากการตรวจสอบผู้ติดเชื้อโควิด-19ในโรงงานดังกล่าว พบว่า มีผู้ติดเชื้อจำนวน 77 ราย ไม่ใช่จำนวนเกือบพันอย่างที่ต้นโพสต์อ้างแต่อย่างใด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น