คลัสเตอร์ศูนย์อพยพแม่ลาอูน อ.สบเมย ลุกลามไปถึง 13 ราย เร่งสั่งปิดศูนย์อพยพ และหมู่บ้านแล้ว

เกิดคลัสเตอร์โควิดระบาดในศูนย์อพยพแม่ลาอูน อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ ฮ่องสอน ลุกลามไปถึง 13 ราย ตอนแรกระบาดในศูนย์อพยพ 6 ราย แต่ไม่มีใครทราบต่อมาลุกลามมาถึงคนไทยที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกับศูนย์อพยพ อีก 7 ราย เป็น 13 ราย ทางการเร่งสั่งปิดศูนย์อพยพ และหมู่บ้านแล้ว อ้างสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในการระบาดระลอกใหม่เมษายน 2564 ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมาได้ มีผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ทั้งหมด 35 ราย พบเชื้อ 7 ราย เป็นผู้ป่วยในจังหวัด โดยมีรายละเอียด ดังนี้

Case.MS256 – MS262 เป็นเพศชาย 3 ราย เพศหญิง 4 ราย ช่วงอายุระหว่าง 32 -75 ปี และเป็นผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป จำนวน 4 ราย ผู้ป่วยทั้ง 7 ราย มีสัญชาติไทย อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านห้วยมะโอ หมู่ 2 ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านแม่ละอูน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีรายงานการพบผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่พักพิงฯ จำนวน 6 ราย ทีมสอบสวนควบคุมโรค อำเภอสบเมย ได้ดำเนินการสอบสวนโรคและขยายผลไปยังผู้สัมผัสใกล้ชิด ที่อาศัยอยู่ในนอกพื้นที่พักพิงฯ ตรวจด้วยชุดตรวจ Rapid antigen ผลเป็นบวก และส่งตรวจด้วยวิธี RT-PCR ผลพบเชื้อ 7 ราย ทั้งหมดมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลแม่สะเรียง

สรุป สถานการณ์ปัจจุบัน ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2564 จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เข้ารับการรักษาในจังหวัด ระลอกเมษายน จำนวน 262 รายเป็นเพศชาย 146 ราย (56%) เพศหญิง 116 ราย (44%) เสียชีวิต 2 ราย (0.7%) รักษาหายแล้ว 206 ราย (79%) ยังอยู่ระหว่างรักษา 54 ราย (20%) รักษาอยู่ที่ โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ 9 ราย โรงพยาบาลแม่สะเรียง 10 ราย โรงพยาบาลปาย 6 ราย และโรงพยาบาลสนาม 29 ราย

นายเอกชัย คำลือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงอาการของผู้ป่วยที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาทั้ง 54 ราย ว่าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย 48 ราย ปานกลาง 5 ราย และรุนแรง 1 ราย โดยผู้ป่วยที่พบในการระบาดรอบนี้มักมีภาวะปอดอักเสบราว 30-40 % ผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว จะมีความรุนแรงของโรคและมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนปกติทั่วไป จากการศึกษาโดยคณะผู้เชี่ยวชาญของประเทศไทย พบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่เคยรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค ครบ 2 เข็ม จะมีอาการรุนแรงของโรคน้อยกว่า และมีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ป่วยที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค ราว 8-10 เท่า

สำหรับสถานการณ์ที่พบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนในพื้นที่ อำเภอสบเมยในขณะนี้ ได้ส่งทีมสอบสวนควบคุมโรค และทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ออกปฏิบัติงานในพื้นที่เพิ่มเติม โดยดำเนินตามมาตรการ ดังนี้
1. ห้ามไม่ให้มีการเดินทางเข้า – ออก หมู่บ้าน พื้นที่พักพิงฯ ตั้งแต่ วันที่ 20 สิงหาคม 2564 เป็นต้นมา
2. ตรวจคัดกรองเชิงรุก ค้นหาผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม เพื่อแยกคนที่ติดเชื้อออกจากคนที่ยังไม่ติดเชื้อ
3. จัดตั้งสถานที่ดูแลรักษาผู้ป่วยในหมู่บ้าน สำหรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือ มีอาการเพียงเล็กน้อย และส่งต่อผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลาง รุนแรง หรือ เป็นกลุ่มเสี่ยงไปรับการรักษายัง โรงพยาบาลแม่สะเรียง
4. รณรงค์ให้สุขศึกษา แจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในหมู่บ้าน และพื้นที่ใกล้เคียง มารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19

จากการประเมินสถานการณ์ และสภาพทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่เกิดโรค ซึ่งตั้งอยู่ห่างไกล การเดินทางคมนาคมเป็นไปด้วยความยากลำบาก คาดว่าจะสามารถควบคุมโรคไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้


ทศพล / แม่ฮ่องสอน

ร่วมแสดงความคิดเห็น