เก๋งบวก จ.ย.ย.สาวดับคาที่ หลังขี่ข้ามเลนเพื่อจะกลับรถ เก๋งมาทางตรงพุ่งชนอย่างจัง กระเด็นไปไกลกว่า 150 เมตร

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 24 ส.ค. 64  ร.ต.อ.สุระชาติ สุริยา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้างฉัตร รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 1669 โรงพยาบาลลำปาง ว่ามีอุบัติเหตุทางถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณจุดกลับรถ บ้านทุ่งบ่อแป้น ถนนสายลำปาง-เชียงใหม่ ฝั่งขาเข้าเมืองลำปาง ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำ ปาง  หลังรับแจ้งเหตุได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต.หนองหล่ม กู้ภัยเทศบาลห้างฉัตรแม่ตาง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยนครลำปาง เข้าไปในที่เกิดเหตุทันที

เมื่อไปถึงพบรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียนลำปาง จอดแน่นิ่งในช่องทางขวาสุด สภาพรถมีร่องรอยเฉี่ยวชนทางด้านซ้าย จนไฟกระจกหน้ารถแตกเสียหายยุบเข้าไป และพบเส้นผมติดคากระจกหน้ารถจำนวนหนึ่ง ห่างออกไปประมาณ 80 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีแดงดำ หมายเลขทะเบียนลำปาง ล้มข้างถนนสภาพมีร่องรอยถูกชนท้ายจนท้ายรถจักรยานยนต์ยุบพังเสียหาย ใกล้กันพบร่างคนขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นหญิง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สภาพแผลฉกรรจ์หลายจุดเลือดไหลนองเต็มพื้นถนน เจ้าหน้าที่ต้องนำผ้ามาคลุมศพไว้ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตตามหลักฐานที่อยู่ภายในตัวผู้ตายคือ น.ส.การเกด (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 6 ต.เมืองปาน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งคู่กรณี เป็นชายวันรุ่นอายุ 20-25 ปี ยืนรอให้การแก่เจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นทราบว่าคนขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองลำปาง โดยใช้ความเร็วพอสมควรและวิ่งช่องทางขวาสุด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ตนเองไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่ามีรถอยู่ด้านหน้า จู่ๆก็มีรถจักรยานยนต์คู่กรณีหักตัดหน้ากระชั้นชิดโดยไม่ทันได้เบรคจึงพุ่งชนอย่างจัง จนไถลไปไกลกว่า 150 เมตร และมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

โดยคนขับรถยนต์เก๋งมีกล้องหน้ารถเป็นหลักฐานการเกิดอุบติเหตุครั้งนี้ ส่งมอบให้แก่ ร้อยเวรสอบสวนแล้ว ด้านผู้เสียชีวิตเบื้องต้นทราบจากเพื่อนที่ทำงานด้วยกันและมาดูศพในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ผู้ตายทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุ คาดว่ากำลังจะรีบขับรถเข้าไปยังที่ทำงาน โดยได้พยายามขับรถข้ามช่องทาง เพื่อที่จะไปกลับรถตรงจุดกลับรถที่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร โดยไม่ทันสังเกตว่ามีรถวิ่งมาด้วยความเร็ว จนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้จุดกลับรถบ้านทุ่งบ่อแป้นแห่งนี้ มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นเป็นประจำทุกวันเพราะเป็นถนนสายหลัก มีโรงงาน สถาบันการศึกษา สถานที่ราชการหลายแห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ จนกระทั่งมีการก่อสร้างจุดกลับรถ จุดเสี่ยงเกิดขึ้น เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยให้มีการเว้นระยะห่างการกลับรถเกือบ 2 กิโลเมตร โดยแล้วเสร็จมาและประมาณ 2 ปี ทำให้การเกิดอุบติเหตุลดลง แต่ครั้งนี้ก็กลับมาเกิดขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตอีกครั้ง ซึ่งเป็นชั่วโมงเร่งด่วนที่รถสัญจรจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนหาสาเหตุแท้จริงต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น