(มีคลิป) ระทึก!! หนุ่มขับกระบะบรรทุกสินค้าเต็มหลังรถ จะผ่านทางลอดใต้สะพานป่าตัน แต่ดันลืมของบรรทุกมาสูงเกินป้าย เกิดชนเข้าจนหักโค่นทับหน้ารถ จนท.ต้องเร่งเข้าเคลียร์พื้นที่ ทำรถติดนานร่วมชั่วโมง
เมื่อช่วงสายเวลาประมาณ 09.40 น. วันนี้ (28 ส.ค. 64) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งอุบัติเหตุ รถยนต์บรรทุกสินค้าชนคานป้ายจำกัดความสูง บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานขัวสลี (ขาเข้าเมือง) จนหักโค่นลงมาทับรถคันดังกล่าว และปิดกั้นเส้นทางการจราจร ภายหลังทราบเรื่องทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าดำเนินการตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือ ซึ่งในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะบรรทุกสินค้า สีขาว หมายเลขทะเบียนเชียงใหม่ มาเต็มหลังกระบะ สภาพถูกป้ายจำกัดความเร็ว หล่นลงมาทับด้านหน้ารถได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนคนขับรถเป็นชาย อายุประมาณ 25-30 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
โดยต่อมา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำการปิดกั้นเส้นทางดังกล่าวเป็นการชั่วคราว เพื่อทำการเคลียร์เส้นทางที่คานเหล็กดังกล่าวหล่นลงมา และทำการยกคานเหล็กให้รถกระบะคันเกิดเหตุออกมาได้ ขณะที่ต่อมาระหว่างการยกคานเหล็กดังกล่าวขึ้นนั้น ทำให้คานอีกฝั่งเกิดหัก ป้ายคานเหล็กดังกล่าวถึงกับหลุดออกจากเสาที่ยึดไว้ ซึ่งโชคดีที่ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดป้ายไว้กับโซ่และรถยก ทำให้สามารถรั้งป้ายไว้ได้ และเกิดเหวี่ยงมาเฉี่ยวกับตัวรถเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะทำการวางป้ายลงบนพื้นถนน และเร่งทำการเคลียร์จุดดังกล่าว เพื่อให้สามารถกลับมาสัญจรได้ตามปกติอีกครั้ง ซึ่งใช้เวลานานร่วมชั่วโมง ส่งผลทำให้เกิดการจราจรติดขัด และต้องเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวชั่วคราว
ขณะเดียวกันจากการสอบถามทางด้าน นายวัชรพงศ์ (สงวนนามสกุล) คนขับรถคันเกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าว มาตามเส้นทางซุปเปอร์ไฮเวย์ สายเชียงใหม่-ลำปาง มุ่งหน้ามาทางเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อนำสินค้าเป็นเห็ดสดบรรจุในกล่องโฟม แล้วบรรทุกหลังรถกระบะหลาย 100 กล่อง ซึ่งมีการคลุมผ้าใบและมัดกล่องไว้แน่นหนา จนกระทั่งมาถึงยังบริเวณทางลอดดังกล่าว ก็ลืมไปว่ารถได้บรรทุกกล่องโฟมมาสูงพอสมควร แล้วขณะผ่านทางลอดซึ่งมีป้ายจำกัดความสูงนั้น สินค้าที่บรรทุกมาหลังรถได้ชนเข้ากับป้าย กระทั่งป้ายหักโค่นลงมาทับหน้ารถ แต่โชคดีที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาช่วยเหลือ และเคลียร์พื้นที่ในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการเคลียร์เส้นทางให้กลับมาใช้ได้ตามปกติแล้ว ส่วนทางด้านคนขับทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสอบสวน และให้ทำการตกลงชดใช้ค่าเสียหายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น