กกท. ย้ำมาตรการเข้ม คลายล็อกจัดแข่งกีฬาได้ เล็งแผนผู้เข้าชมในสนาม

หลังจากที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้แถลงภายหลังการประชุมชุดใหญ่ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 สิงหาคม 2564 โดยมีมติให้คลายล็อกกิจกรรม และกิจการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไป โดยในข้อที่ 2.6 เรื่องการเปิดใช้สนามกีฬา และสวนสาธารณะ สามารถทำได้ โดยให้เปิดใช้สนามกีฬา และสวนสาธารณะ ประเภทกลางแจ้ง หรือสนามกีฬาในร่มที่เป็นที่โล่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีการปรับอากาศ โดยสามารถใช้ฝึกซ้อม และแข่งขันกีฬาได้ โดยไม่มีผู้ชม

นอกจากนี้ ยังขอให้มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม และไม่ให้มีการรวมกลุ่มกัน โดยให้แเจ้งผ่าน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด / กรุงเทพฯ ให้ทราบล่วงหน้าก่อนที่จะเปิดใช้ และผู้จัดการแข่งขันต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ตามมาตรการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัด หรือ กรุงเทพมหานคร โดยให้เปิดถึงเวลา 20.00 น.

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวถือว่า เป็นไปตามแผนการดำเนินงานคลายล็อกกิจกรรม และการแข่งขันที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ กกท.ได้นำเสนอไปยัง ศบค. อย่างไรก็ตาม เวลานี้ยังมีรายละเอียดยิบย่อยอีกเล็กน้อย ที่ทาง กกท.มีการปรับแก้ระเบียบ และกฏเกณฑ์ในส่วนของคู่มือการจัดกิจกรรม และการแข่งขัน เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์โควิด-19 ของเมืองไทยในช่วงเวลานี้

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า การคลายล็อกกิจกรรม และการแข่งขันในเฟสแรกรอบนี้ ถือเป็นการปูทางให้ฝ่ายจัดการแข่งขัน และสมาคมกีฬาต่างๆ สามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ได้อีกครั้ง ในส่วนการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ จะมีการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาลใหม่ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 กันยายนนี้ รวมถึงวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก ซีซั่นใหม่ ซึ่งช่วงแรกนี้ก็คงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด จัดการแข่งขันแบบไม่มีผู้ชมในสนามไปก่อน

“หากสถานการณ์ในประเทศดีขึ้น เรามองไปถึงการเปิดให้แฟนๆ กีฬาสามารถกลับไปชมในสนามแข่งขันได้ตามสัดส่วนตามคู่มือ และมาตรการป้องกันโควิด-19 ของพื้นที่นั้นๆ อีกครั้ง ซึ่งในการเปิดรอบนี้ อาจมีการปรับแก้กฎใหม่เล็กน้อย เพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุด โดยจะใช้การคัดกรองผู้ชมที่เข้าไปเชียร์ข้างสนาม ด้วยการโดยดูจากเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือดูจากวัคซีนพาสปอร์ต หรือดูผลตรวจเชื้อโควิด-19 ทั้งจากแล็ป หรือในรูปแบบ ATK ก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้จะมีการออกเป็นมาตรการที่ชัดเจนออกมาอีกครั้ง”

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวถึงการเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อเตรียมการแข่งขันของนักกีฬาทีมชาติไทย ในสมาคมกีฬาต่างๆ ด้วยว่า ช่วงที่ผ่านมายังมีบางสมาคมที่เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ แต่ก็ทำในลักษณะปิด มีมาตรการที่รัดกุมและเข้มงวด แต่จากการคลายล็อกรอบนี้ สมาคมกีฬาใดมีแผนต้องเรียกนักกีฬาเข้าร่วมฝึกซ้อม สามารถทำได้ และขอให้ทำแผนการเก็บตัวเสนอมายัง กกท. และปฏิบัติตามกฎระเบียบของคู่มือการจัดกิจกรรม การฝึกซ้อม และแข่งขันอย่างเคร่งครัด

ร่วมแสดงความคิดเห็น