(มีคลิป) ตำรวจ รวบตัวผู้ต้องหา กรณี “น่านยูสคาร์” หลังก่อเหตุยักยอกทรัพย์ หนีไปตั้งแต่ปี 2558 พบหมายศาล 60 หมาย มูลค่าเงินกว่า 30-35 ล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 น.ที่ สภ.เมืองน่าน จ.น่าน จากกรณีการจับกุมผู้ต้องหาคดี “ยักยอกทรัพย์” เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. ,พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ ,พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ก.จว.น่าน ,พ.ต.อ.ณรงค์เวทย์ โอนสูงเนิน รอง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ  พ.ต.อ.ดเรศ กัลยา รอง ผบก.ภ.จว.น่าน ,พ.ต.อ.วินัย เกตุพันธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.น่าน ,พ.ต.อ.พงศกร รัศมีโรจน์สกุล รอง ผบก.ภ.จว.น่าน ,พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์  กัลยาวัฒนเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.น่าน , พ.ต.อ.ศิววงศ์ ดำรงสัจจ์ศิริ ผกก.๓ บก.ปฏิบัติพิเศษ พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน ,พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สภ.เมืองน่าน ได้จับกุมตัว นายสักรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลเหมืองหม้อ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่

ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิตฐาน “ร่วมกันยักยอกทรัพย์” ตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน โดยพบว่ามีหมายศาลจังหวัดน่าน ตั้งแต่ปี 2558 ถึงปี 2559 จำนวน 60 หมายในฐาน “ร่วมกันยักยอกทรัพย์” ซึ่งการจับกุม เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลาประมาณ 13.30 นาฬิกา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมใด้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปกปิดนาม) ทราบว่าขณะนี้พบตัว นายสักรินทร์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน ที่ได้หลบหนีไปนานแล้ว อยู่บริเวณถนนสาธารณะ ภายในซอยประสานใจ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบบุคคลมีรูปร่างลักษณะ ตำหนิรูปพรรณคล้าย นายสักรินทร์ ชำนาญราษฎร์ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจแสดงหมายจับให้ดู และอ่านข้อความที่ระบุในหมายจับให้เป็นที่เข้าใจดีแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน

เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมได้แจ้งให้ผู้จับกุมทราบแล้วว่าเขาต้องถูกจับกุม ได้จัดทำบันทึกการจับกุมฉบับนี้ขึ้นเพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งผู้จับกุมได้ทราบและเข้าใจข้อกล่าวหา และยอมรับข้อความตามบันทึกฉบับนี้แล้ว และรับทราบสิทธิตามกฎหมายที่มีอยู่แล้ว พร้อมทั้งผู้ถูกจับขอให้การยอมรับข้อกล่าวหา จากนั้นจึงได้นำตัวส่ง พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ พิชญ์วิชชาธรรม พงส.สภ.เมืองน่าน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สภ.เมืองน่าน กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ในคดีดังกล่าว ได้จับกุมตัว นางดอกรัก (สงวนนามสกุล)  อายุ 46 ปี ที่อยู่ถนนเปรมประชาราษฎร์ ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน (จับกุมตัวแล้ว เมื่อวันที่ 26 ต.ค.58) โดยมีพฤติกรรม  ในช่วงระหว่างวันที่ 5 มี.ค. 55 – 25 ก.ย. 58  ผู้เสียหายได้ทำสัญญาซื้อรถยนต์ จากร้านน่านยูสคาร์ โดยมีผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 เป็นเจ้าของร้านฯ และได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์กับทางธนาคารเกียรตินาคิน โดยตกลงผ่อนเป็นรายเดือน แต่ผู้เสียหายไม่สะดวกที่จะจ่ายเป็นรายเดือน ทางร้านจึงเสนอข้อตกลงกับผู้เสียหายว่าให้จ่ายเงินเป็นรายปี โดยทางร้านจะรับเป็นผู้ชำระเงินค่างวดเป็นรายเดือนให้กับทางธนาคารเอง ต่อมา ธนาคารฯมีหนังสือไป ยังผู้เสียหายแจ้งว่าผู้เสียหายค้างชำระเงินค่าเช่าซื้อรถยนต์ดังกล่าว ผู้เสียหายจึงได้ไปตรวจสอบที่ร้านน่านยูสคาร์ พบว่าร้านได้ปิดกิจการไปแล้วและเจ้าของร้านได้หลบหนีไป เมื่อตรวจสอบจึงทราบว่าทางร้านได้ขาดส่งเงินคำงวดที่ผู้กล่าวหาฝากไปทำธุระกรรมให้กับธนาคาร ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองได้ร่วมกันเบียดบังเอาเงินดังกล่าวของผู้เสียหายไป รวมจำนวนผู้เสียหาย 65 ราย (ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์จำนวน 3 ราย) เงินที่ผู้ต้องหาทั้งสองยักยอกไป จำนวน ประมาณ 30,000,000 – 35,000,000 บาท

ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น

ร่วมแสดงความคิดเห็น