(มีคลิป) คุมตัวหนุ่มหัวร้อนด่า ตร.ขัง หลังชูนิ้วกลางใส่เหตุไม่พอใจถูกเตือนเกี่ยวกับการจับกลุ่มดื่มสุราบนลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 31 ส.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริงกรณีคลิปวิดิโอบนโลกออนไลน์ ว่ามีชายวัยรุ่นยืนต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าคุมคามสิทธิและเสรีภาพ หลังชายวัยรุ่นดังกล่าวจับกลุ่มกับเพื่อนดื่มสุราบริเวณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยการด่าทอใช้คำหยาบคาย และมีการชูนิ้วกลางใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจอีกด้วย

จากการตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่สายตรวจที่ปรากฏในคลิปวิดีโอคือ ด.ต.มงคล เสมอเชื้อ ผบ.หมู่งานป้องกัน สภ.เมืองเชียงใหม่ และ ด.ต.พันธ์ศักดิ์ บุญโต ผบ.หมู่งานป้องกัน สภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่ปฏิบัติงานในคืนดังกล่าว ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้ให้ฟังว่า ระหว่างที่ทำการออกตรวจตามปกติ เวลาประมาณ 0.00 น. ของคืนวันที่ 30 ส.ค. 64 พบว่ามีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันดื่มสุรา ในพื้นที่ของลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จึงได้ร่วมกับ ด.ต.พันธ์ศักดิ์ บุญโต ได้ร่วมกันเข้าห้ามปรามตักเตือน บอกให้วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวแยกย้ายกลับบ้าน เนื่องจากว่าเป็นยามวิกาลและเป็นการฝ่าฝืนคำส่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19

แต่ภายหลังหลังจากว่ากล่าวตักเตือน จู่ๆ กลุ่มวัยรุ่นในคลิปก็ได้ลุกขึ้นมาด่าทอ ต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายคำ อ้างว่าเป็นสิทธิและเสรีภาพที่จะดื่มสุราตรงไหนก็ได้ เป็นอำนาจประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมชูนิ้วกลางใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองเชียงใหม่ มาช่วยกันจับกุมตัววัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว มาสงบสติอารมณ์ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่

ขณะที่ทางด้าน พ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการสอบสวนพบว่า กลุ่มคนดังกล่าวรวมตัวกันส่งเสียงดังบริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ มีผู้ต้องหาคือ นายพึ่งบุญ ใจเย็น พร้อมกับนายญานวุฒิ ณฤวัฒน์จขจร ,น.ส.ธัญญา เลิศพงษ์ไทย , นายกิตติพันธ์ เจริญสุข,นายกัณทรากร ลาภเวที,นายณัฎวีร์ องอาจ และ น.ส.สกาวเดือน แก้วมิ่ง นั่งล้อมวงดื่มสุราเปิดเพลงเสียงดัง โดยพบขวดสุราไทย 35 ดีกรี 1 ขวด วางอยู่บริเวณบนม้านั่งที่เกิดเหตุและพยายามเก็บซ่อนไว้ในถุงหิ้วสีขาวอีกขวดหนึ่ง เจ้าหน้าจึงเข้าไปว่ากล่าวตักเตือนและขอให้แยกย้ายกลับบ้าน เนื่องจากเป็นยามวิกาล รบกวนชาวบ้าน และ อยู่ในช่วงของการควบคุมโรคติดต่อของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่

แต่ต่อมาปรากฏว่าระหว่างที่ตำรวจว่ากล่าวตักเตือน นายพึ่งบุญ ไม่พอใจลุกขึ้นมาชี้หน้าด่าเจ้าหน้าด้วยถ้อยคำหยาบคายในลักษณะดูหมิ่น แถมยังขอทราบชื่อดูบัตร และ พยายามเข้มประชิดตัวและไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่พอใจเจ้าหน้าที่ อ้างว่ากีดกันอิสรภาพ เพราะการมานั่งดื่มเป็นการเยียวยาอย่างหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันจับกุมนายพึ่งบุญ ใจเย็น อายุ 35 ปี ในข้อหาร่วมกัน”ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยขณะนี้ได้มีการนำตัวฝากขังกับศาลแล้ว

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบ นายพึ่งบุญ ใจเย็น ผู้ต้องหารายนี้ มีประวัติพบว่า เคยถูกดำเนินคดีที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ข้อหาทำให้เสียทรัพย์สินของราชการโดยได้นำปากกาเมจิกไปขีดเขียนตามป้ายต่างๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ หลายแห่ง รวมถึงเคยไถสเก็ตบอร์ดชูนิ้วลกางใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนมีการแจ้งความดำเนินคดีประมาณ 20-30 คดี

ร่วมแสดงความคิดเห็น