ดร.ศิริพันธ์ ขวัญอ่อน ผอ.สกสค.จ.แพร่ เผยว่า สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ได้อนุมัติและจัดส่งงบประมาณการจัดกิจกรรม โครงการครูช่วยครูกิจกรรม : ครูดูแลครูที่ป่วยและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ให้กับสำนักงาน สกสค. จ.แพร่ จำนวน 284,760 บาท (สองแสนแปดหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยหกสิบบาทถ้วน) เพื่อดำเนินงานตามโครงการครูช่วยครูฯ
โดยกิจกรรมมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ป่วยและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และผู้เกี่ยวข้อง ได้รับการส่งเสริมสวัสดิภาพอย่างเหมาะสมและทั่วถึง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการดำรงชีวิต ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่ป่วยและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พร้อมที่จะดำรงชีวิตต่อไปในสังคมได้อย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อขับเคลื่อนภารกิจ การส่งเสริมสวัสดิภาพของสำนักงาน สกสค.จ.แพร่ ให้แก่ครู และ บุคลากรทางการศึกษา และผู้เกี่ยวข้อง ได้อย่างเป็นรูปธรรม
สำนักงาน สกสค.จ.แพร่ ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สกสค.จ.แพร่ ให้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการครูช่วยครู กิจกรรม “ครูดูแลครูที่ป่วย และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้” ประจำปี 2564 ประกอบด้วย ดร.ศิริพันธ์ ขวัญอ่อน ผู้อำนวยการ สำนักงาน สกสค.จ.แพร่ นายพรชัย จันทสาร ประธานศูนย์ดูแลครูในประจำการ จ.แพร่ นายอุบลศักดิ์ ขีดสร้อย ประธานศูนย์ดูแลครูฯผู้สูงอายุ จ.แพร่ นายไตรรัตน์ ฤทธิสินธุ์ ประธานชมรมข้าราชการบำนาญ อ.เมืองแพร่
นายมนูญ สายสีนพคุณ ประธานชมรมข้าราชการบำนาญ อ.ร้องกวาง นายนิคม กันทะชัย ประธานชมรมข้าราชการบำนาญ อ.สูงเม่น นายธีระวิทย์ ภิญโญ นายกสมาคมข้าราชการครู อ.สอง น.ส.นุชศุภางค์ ถิ่นเดิม ผอ.โรงเรียนผู้สูงอายุ ต.บ้านถิ่น นายศราวุธ กวาวสิบสอง นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ สำนักงาน สกสค.จ.แพร่
คณะกรรมการฯได้กำหนด แนวทางการดำเนินงานโครงการ โดยรับสมัครและสำรวจข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษา สมาชิก ช.พ.ค และ ช.พ.ส. ผู้สูงอายุ หรือที่ป่วยและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าร่วมกิจกรรม จากครูและบุคลากรทางการศึกษาใน จ.แพร่ จำนวน 8 อำเภอ โดยกำหนดออกเยี่ยม ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 6 – 9 กรกฎาคม 2564 และครั้งที่ 2 วันที่ 30 สิงหาคม 2564 โดยมอบเกียรติบัตร การเข้ารวมโครงการของทุกคน และมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับครูและบุคลากรที่ป่วยและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จำนวน 51 ราย ดังนี้
นายมนัส วุฒิเจริญ อายุ 95 ปี.นายมิตร แก้วกัน อายุ 90 ปี นางสมัย วุฒิเจริญ อายุ 90 ปี นางศิริลักษณ์ ศักดิ์สิทธิ์ อายุ 68 ปี นางกุศล มโนรส อายุ 89 ปี นายไกรวิทย์ มะส่าห์ อายุ 69 ปี นางบัวทอง สุดแดน อายุ 96 ปี นายมนตรี เวียงยา อายุ 69 ปี นางต่อมแก้ว อู่เงิน อายุ 94 ปี นายทศพร ยานะวิน อายุ 66 ปี นางแสงลอย มณีกาศ อายุ 88 ปี นางเพียงเพ็ญ เวียงเก้า อายุ 65 ปี นางอำไพ ดาวแดน อายุ 68 ปี นายถวิล วิรัตน์ชัยวรรณ อายุ 88 ปี นางอาภรณ์ อินทนรลักษณา อายุ 90 ปี นายชวลิต อารีย์ อายุ 89 ปี นางรำพึง บุญเลิศเจริญศรี อายุ 80 ปี นางอุไร อารีย์ อายุ 89 ปี
นางพิไลลักษณ์ กลิ่นพยอม อายุ 50 ปี นางอุไร อารีย์ อายุ 89 ปี นายประยุทธ มีทรัพย์ อายุ 67 ปี นางสุพิณ นันทวรรณ อายุ 93 ปี นายอุดม กล่าวแล้ว อายุ 76 ปี นางอารีย์ สุจริต อายุ 81 ปี นายพิทักษ์ เหมืองหลิ่ง อายุ 68 ปี น.ส.ประภาพร มะละสาร อายุ 47 ปี นายสุภาพ ขัตติยากุล อายุ 90 ปี น.ส.จุไรศรี อินทราวุธ อายุ 94 ปี นายวิฑูรญ์ ไชยแก้ว อายุ 64 ปี นางบุญสาร ฟุ่มเฟือย อายุ 73 ปี นายเสรี ชื่นสมบัติ อายุ 68 ปี น.ส.คำป้อ มหัปปานันท์ อายุ 90 ปี นายรุ่ง วันมูล อายุ 93 ปี นายประเสริฐ ชนเจริญ อายุ 69 ปี นายสมคิด อินเมืองคำ อายุ 88 ปี นางอรพรรณ วงศ์สงคราม อายุ 84 ปี
นายสุวิทย์ ตันตื้อ อายุ 74 ปี น.ส.อารีย์ จันทรมณี อายุ 94 ปี นายคมกริช ทรวงแก้ว อายุ 36 ปี นายทองคำ หมื่นโฮ้ง อายุ 81 ปี นายแปลก สายตรง อายุ 92 ปี นางรัตติยา ชื่นบาน อายุ 70 ปี นายวัลลพ สมร่าง อายุ 81 ปี น.ส.บัวเขียว เวียงเก้า อายุ 81 ปี นายสุเทพ อุปกิจ อายุ 77 ปี นางอรศรี ปินตากุล อายุ 83 ปีนายเจริญ จันทรมณี อายุ 89 ปี นางสุพิน ต๊ะวิกา อายุ 68 ปี นางวิลาวรรณ จันทรมณี อายุ 82 ปี นายกิตติ เมืองตาแก้ว อายุ 67 ปี นางอัมพร วงศ์พระถาง อายุ 82 ปี และนายจักรพันธ์ ใจยวน อายุ 64 ปี
ร่วมแสดงความคิดเห็น