กรมอนามัย เผยผลโพล ชี้ วิธีป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) “งดกินร่วมกัน” ทำได้น้อยสุด

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลอนามัยโพลมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19 ) พบพฤติกรรมที่ประชาชนปฏิบัติได้น้อยที่สุดคือ การงดกินร่วมกัน ย้ำ ช่วงนี้ ให้งดการกินอาหารร่วมกันอย่างเคร่งครัด หรือให้เหลื่อมเวลาในการกินอาหาร เพื่อลดการติดและแพร่เชื้อโควิด-19
​นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่ยังขยายเป็นวงกว้างและมีความต่อเนื่องในช่วงนี้ การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) เป็นมาตรการที่ขอให้ปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

เพราะจากผลสำรวจอนามัยโพล ประเด็น “คิดเห็นอย่างไร กับมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19)” โดยได้แบ่ง การสอบถามเป็น 2 กลุ่ม คือ เจ้าของหรือผู้ประกอบการ พนักงาน และอีกกลุ่มเป็นประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม – 1 กันยายน 2564 พบว่าพฤติกรรมที่กลุ่มเจ้าของหรือผู้ประกอบการ พนักงาน ส่วนใหญ่ทำได้มากที่สุดคือล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ร้อยละ 89.2 รองลงมาคือ แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ร้อยละ 83.5 ส่วนพฤติกรรมที่ทำได้น้อยที่สุด คือ งดกินข้าวร่วมกัน ร้อยละ 66.9 สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไปพบว่าพฤติกรรมที่ทำได้มากที่สุดคือ ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ร้อยละ 83.8 รองลงมาคือหากสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยง จะตรวจด้วยชุด ATK หรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ร้อยละ 76.3 ส่วนพฤติกรรมที่ทำได้น้อยที่สุดคือ งดกินข้าวร่วมกัน ร้อยละ 51.9 จึงเป็นจุดคุมเข้มสำคัญที่ต้องขอความร่วมมือประชาชน รวมทั้งเจ้าของหรือผู้ประกอบการ พนักงาน งดการกินอาหารร่วมกันไปสักระยะหนึ่งก่อน หรือให้เหลื่อมเวลากัน ในช่วงการกินอาหาร เลือกกินอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ และแยกของใช้ส่วนตัว เช่น จาน ชาม ช้อน ส้อม เป็นต้น เพื่อลดการแพร่และป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

​“สำหรับการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) นั้น เป็นการยกระดับการป้องกันการติดและการแพร่ของเชื้อโควิด-19 ด้วยหลักปฏิบัติ 10 ข้อสำคัญ ดังนี้ 1.) ออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น 2.) เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ทุกสถานที่ 3.) สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา ทั้งนอกบ้านและในบ้านและเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น 4.) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 5.) หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากาก ใบหน้า ตา ปาก จมูก 6.) ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ และผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังให้เลี่ยงออกนอกบ้าน 7.) ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวที่สัมผัสบ่อย ๆ 8.) แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น 9.) งดกินข้าวร่วมกัน และเลือกกินอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ และ 10.) หากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง ควรตรวจด้วย ATK หรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น