“หมออุ๋ย”หนักแน่นยึดอุดมการณ์ยกมือ“ไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธและคณะ”

 

“หมออุ๋ย” นายแพทย์นิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส.แพร่ เพียงคนเดียวที่ลงมติ “ไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธและคณะ” ด้วยเหตุผลที่บริหารประเทศผิดพลาด และไม่โปร่งใส ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

ผู้สื่อข่าวจ.แพร่ รายงานว่า ตามที่ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อลงมติไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม และ 5 รัฐมนตรี แบบกดบัตรลงคะแนนเสียง โดยมีสมาชิก 482 คน ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 241 เสียง หากไม่ไว้วางใจต้องมากกว่ากึ่งหนึ่ง คือ 242 เสียง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 ก.ย.64) หลังใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ในการอภิปรายไม่วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และรัฐมนตรีอีก 5 คน ตกเป็นเป้าหลักของฝ่ายค้านที่ถูกรุมถล่มติดต่อกันมานั้น ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ด้วยคะแนนเสียง 264 ต่อ 208 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน ไม่มี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้รับความไว้วางใจด้วยคะแนนเสียง 269 ต่อ 196 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน ไม่มี

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้รับความไว้วางใจด้วยคะแนนเสียง 263 ต่อ 201 งดออกเสียง 10 ไม่ลงคะแนน 1
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้รับความไว้วางใจด้วยคะแนนเสียง 269 ต่อ 195 งดออกเสียง 10 ไม่ลงคะแนน 1
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้รับความไว้วางใจด้วยคะแนนเสียง 270 ต่อ 199 งดออกเสียง 8 ไม่ลงคะแนน 1
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ได้รับความไว้วางใจด้วยคะแนนเสียง 267 ต่อ 202 งดออกเสียง 9 ไม่ลงคะแนน ไม่มี
ซึ่งผลการลงคะแนนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ 5 รัฐมนตรี รอดจากศึกซักฟอกในครั้งนี้ และทำให้นายกรัฐมนตรี ได้คะแนนเป็นรองบ๊วย จากทั้งหมดต่อมาเวลา 10.30 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุม ได้ปิดประชุม

สำหรับการลงมติในครั้งนี้ นายแพทย์นิยม วิวรรธนดิฐกุล เป็น ส.ส.แพร่ เพียงคนเดียวที่ลงมติ “ไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธและคณะ” ด้วยเหตุผลที่บริหารประเทศผิดพลาด และไม่โปร่งใส ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ทำให้ประชาชนเสียชีวิตมากกว่าหมื่นคน ติดเชื้อโควิดมากกว่าล้านคน เศรษฐกิจพังพินาศ ประชาชนลำบากยากเข็ญ ดังที่เห็นในปัจจุบัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น