ข่าวปลอม!!! ธนาคารออมสิน ร่วมกับแอปพลิเคชัน Loan Hero โปรโมท โปรดใส่ใจกับบัญชีของคุณใน 5 นาที

วันที่ 5 ก.ย. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่ามีการ ตรวจพบข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ธนาคารออมสิน ร่วมกับแอปพลิเคชัน Loan Hero โปรโมท โปรดใส่ใจกับบัญชีของคุณใน 5 นาที ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีแอปพลิเคชัน Loan Hero เผยแพร่ข้อความเชิญชวนว่า “โปรดใส่ใจกับบัญชีของคุณใน 5 นาที” ซึ่งมีชื่อและโลโก้ธนาคารออมสิน บนสื่อดังกล่าวด้วยนั้น ทีมงานฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบรายละเอียดแล้ว พบว่า เป็นข้อมูลเท็จ ธนาคารขอเรียนว่า ธนาคารออมสินมีบริการทางการเงินผ่านแอปพลิเคชัน MyMo เท่านั้น ไม่มีบริการทางการเงินผ่านแอปพลิเคชันอื่น
ทั้งนี้แอปพลิเคชัน Loan Hero ที่นำชื่อและโลโก้ธนาคารออมสินเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว จึงเป็นการแอบอ้างนำชื่อและโลโก้ธนาคารออมสินไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ธนาคารออมสินขอยืนยันว่า ธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของแอปพลิเคชันดังกล่าวใดๆ ทั้งสิ้น

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ อีกทั้งขอให้ใช้ความระมัดระวังพิจารณาและตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องจากธนาคารออมสินก่อนทุกครั้ง จากเว็บไซต์ www.gsb.or.th หรือเพจเฟซบุ๊ก gsbsociety หรือโทร. 1115

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ธนาคารออมสินมีบริการทางการเงินผ่านแอปพลิเคชัน MyMo เท่านั้น ไม่มีบริการทางการเงินผ่านแอปพลิเคชันอื่น

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น