(มีคลิป) ชุดเฉพาะกิจจับไม้เถื่อนสอดใส้ ไม้ชิงชันนายทุนขณะขนออกพื้นที่หนีไม่รอด

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 เวลา 19.00 น. บริเวณ บ้านพะเยา หมู่ที่ 3 ต.อ่ายนาไลย อ.เวียงสา จ.น่าน
หลังจากที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตำรวจภูธรภาค 5 อำนวยการจับกุมโดย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ ยอดคำ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.5  พ.ต.ท.จิตรภณ สมหมาย รอง ผกก.( ป ) สภ.เด่นชัย ,เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ ,เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเวียงสา ,กอ.รมน.จังหวัดน่าน ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงสา
เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.15 (นาสา) กก.5 บก.ปทส. โดย ร.ต.อ.สมบัติ แก้วกล้า ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้น่าน ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อย กก.ตชด.32 , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อย ตชด.324 , ชุดสืบสวน สภ.เวียงสา จ.น่าน โดย พ.ต.ท.อุทัย แก่นแสง สว.สส.ส.ภ.เวียงสา, ร.ต.อ.ทินรัตน์ เทียมนโรดม รองสว.สส.ฯ ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว
1.นายเมฆ อิ่นทา อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 3 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน  (คนขับ) 2. นายสุทัศน์ อื่นทา อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 140 หมู่ 4 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน พร้อมด้วยของกลาง ไม้ชิงชันแปรรูป จำนวน 83 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 1.31 ลบ.ม. คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 393.000 บาท ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 18 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร ,0.25 ลบ.ม.ค่าเสียหาย 17,000 บาท ,ไม้มะค่าโมงแปรรูป จำนวน 5 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร .48 ลบ.ม. ค่าเสียหาย 33,600 บาท  , รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน ทะเบียน 80-5951 น่าน ที่ , ไม้ท่อนมีลักษณะผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้าง หรือเครื่องเรือนเครื่องใช้มาก่อน สังเกตได้จากมีร่องรอยการ ตีตะปู และมีการกัดแทะกินของปลวก จำนวน 4 ท่อน(ปกปิดอำพรางไม้แปรรูปของกลาง) ไม้แปรรูปมีลักษณะผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้าง หรือเครื่องเรือนเครื่องใช้มาก่อน สังเกตได้จากมีร่องรอย การตีตะปู จำนวน 89 แผ่น/เหลี่ยม หลังจากที่ จนท.ชุดจับกุมได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ตามที่สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนไม้แปรรูปที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายออกจากบริเวณหมู่บ้านป่าหุ่ง ต.ยาบ หัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน โดยใช้รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ของกลาง เวลาเกิดเหตุคณะเจ้าหน้าที่ได้ทำการวางกำลังดักชุ่มอยู่บริเวณข้างทางถนนสาธารณะในหมู่บ้านห้วยหลอด ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน ได้มีรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ  สีน้ำเงิน มีผ้าใบสีน้ำตาลอ่อนคลุมท้ายกระบะซึ่งมีลักษณะตรงตามที่ สืบทราบได้ขับมาตามเส้นทางและขับผ่านหน้าจุดที่เจ้าหน้าที่ดักชุ่มอยู่ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์ติดตาม
รถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวไป จนถึงขับเข้าไปยังหมู่บ้านพะเยา ต.อ่ายนาไลย อ.เวียงสา จ.น่าน และได้ขับเข้าไปจอดในบ้านหลังหนึ่ง จนท.ชุดจับกุม จึงได้เข้าแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่และขอทำการตรวจสอบ โดยนายเมฆ
และนายสุทัศน์ฯ เป็นผู้นำในการตรวจสอบ  นายเมฆ รับเป็นคนขับ และเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว และนายสุทัศน์
ให้การ นายเมฆฯ ได้ใช้โทรศัพท์มาหาภรรยาของตนเพื่อขอให้ตนเองนั่งโดยสารไปเป็นเพื่อนจากบ้านป่าหุ่ง ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน โดยที่นายเมฆ ฯ บรรทุกไม้แปรรูปไปส่งบริเวณบ้านพะยา ต.อ่ายนาไลย อ.เวียงสา จ.น่าน
โดยไม่มีราคาค่าจ้างแต่อย่างใดและตนไม่ทราบว่าไม้แปรรูปดังกล่าวมีเอกสารถูกต้องหรือไม่อย่างใด จนมาถูก
แจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวดังกล่าว ตนเองจึงให้การรับว่าได้นั่งรถคัน ดังกล่าวมากับนายเมฆฯ จริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไม้ดังกล่าวแต่อย่างใด โดยกล่าวหาว่ากระทำผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 ฐาน “ร่วมกันมีไม้ชิงชันแปรรูปไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และมีไม้กระยาเลยแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 1.20 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต” ,มาตรา 70 ฐาน ผู้ใดร่วมกันรับใว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่ง พระราชบัญญัตินี้มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำความผิดนั้น นายเมฆฯ ผู้ต้องหาที่ 1 รับสารภาพตลอดทั้ง 3 ข้อกล่าวหา นายสุทัศน์ฯ ผู้ต้องหาที่ 2 รับว่าได้นั่งรถคันดังกล่าวมากับผู้ต้องหาที่ 1 จริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไม้ดังกล่าวแต่ อย่างใด จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่ง พงส. สภ. เวียงสา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น