ข่าวบิดเบือน!ได้กลิ่นควันไหม้ทั้งที่ไม่มีอะไรไหม้ เข้าข่ายเป็นโรคแฟนโทสเมีย บรรเทาอาการโดยใช้สเปรย์ปรับอากาศหรือล้างจมูก

วันที่ 7 ก.ย. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวบิดเบือน เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในสื่อออนไลน์ต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ได้กลิ่นควันไหม้ทั้งที่ไม่มีอะไรไหม้ เข้าข่ายเป็นโรคแฟนโทสเมีย บรรเทาอาการโดยใช้สเปรย์ปรับอากาศหรือล้างจมูก ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

จากที่มีการแชร์ข้อมูลว่า ได้กลิ่นควันไหม้ทั้งที่ไม่มีอะไรไหม้ถือว่ามีความผิดปกติ เข้าข่ายเป็นโรคแฟนโทสเมีย ซึ่งการบรรเทาอาการเบื้องต้นของโรคแฟนโทสเมีย ให้ใช้สเปรย์ปรับอากาศหรือล้างจมูกเพื่อให้หายใจสะดวกนั้น โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า การได้กลิ่นโดยที่ไม่มีแหล่งของกลิ่นนั้นเป็นอาการที่เรียกว่า แฟนโทสเมีย (Phantosmia) จริง เป็นอาการที่ไม่ได้จำเพาะกับโรคใดโรคหนึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งเมื่อเกิดอาการนี้จึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจจากแพทย์
แต่ที่ระบุถึงการบรรเทาอาการเบื้องต้นว่าให้ใช้สเปรย์ปรับอากาศหรือล้างจมูกเพื่อให้หายใจสะดวก โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างประเทศ พบว่าเป็นการแปลไม่ถูก กล่าวคือ ต้นทางเขียนว่าไม่ว่าสาเหตุจะเป็นจากอะไรผู้ป่วยสามารถ 1. ล้างจมูกไปก่อน หรือ 2. ใช้ยาลดบวมชื่อ oxymetazoline หรือ 3. ใช้ยาชาแบบสเปรย์ คือ การใช้โคเคนไปทำให้ให้เส้นประสาทรับกลิ่นชา
แต่ทั้งนี้เมื่อนำข้อมูลการบรรเทาอาการเบื้อต้น ไปตรวจสอบกับตำราทางหูคอจมูก (Cummings 7th edition, Chapter 36) มีการพูดถึงการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อรับกลิ่นหรือการใช้โคเคนในข้อที่ 3 แต่ไม่มีการพูดถึงการหยอดน้ำเกลือหรือการใช้ oxymetazoline ในข้อที่ 1 และ 2 แต่อย่างใด

ดังนั้นข้อมูลและภาพที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน จึงขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.rajavithi.go.th หรือโทร 02 206 2900

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ได้กลิ่นโดยที่ไม่มีแหล่งของกลิ่นนั้นเป็นอาการที่เรียกว่า แฟนโทสเมีย (Phantosmia) จริง เป็นอาการที่ไม่ได้จำเพาะกับโรคใดโรคหนึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่การบรรเทาอาการด้วยใช้สเปรย์ปรับอากาศหรือล้างจมูกเป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น