(มีคลิป) ชาวบ้าน ต.แม่เย็น อ.พาน รวมตัวขอตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ดัง หลังพบเงินหายจากบัญชีและมียอดหนี้เพิ่ม รวมความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีที่ชาวบ้าน ต.แม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย ร้องเรียนผ่านสื่อ หลังพบความไม่ชอบมาพากลของสหกรณ์แห่งหนึ่ง พบมีการโยกย้ายถอนเงินออกเกือบเกลี้ยงบัญชี บางรายมียอดกู้เงินทั้งที่ไม่เคยทำเรื่องกู้ ยอดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยหวั่นหลบหนีหรือทำร้ายตัวเอง

ที่ศาลาภายในวัดแม่เย็นเหนือ บ้านแม่เย็น ม.3 ต.แม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย ได้มีชาวบ้านนับร้อยคนต่างพากันนำบัญชีเงินฝากหรือหลักฐานอื่นมายื่นกับเจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อตรวจสอบบัญชีว่าตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ หลังจากเมื่อต้นปี 64 มีข้อมูลว่าลูกค้าสหกรณ์หลายรายไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้ โดยทางสหกรณ์พยายามหาเหตุผลมาบ่ายเบี่ยงต่างๆนาๆ รวมไปถึงบ่ายเบี่ยงการเข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่กรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์เมื่อต้นปี 64 โดยให้เหตุผลถึงความไม่พร้อมต่างๆ ซึ่งจากการเริ่มตรวจสอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา พบว่ามีลูกค้าสหกรณ์หลายรายมีรายการเงินถูกถอนจากบัญชีเกือบทั้งหมด รวมถึงบางรายมียอดเงินกู้ทั้งที่ไม่เคยยื่นทำเรื่องมาก่อน แถมผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้เสียชีวิตไปแล้วก็ยังมีรายการกู้ด้วย และมีเงินสมาคมฌาปณกิจสงเคราะห์ (สค.5) ที่เก็บเงินไปแล้วแต่ไม่ได้นำส่งธนาคารอีกหลายรายด้วย

นายตัน เทพวงค์ อายุ 67 ปี ชาวบ้าน ต.แม่เย็น อ.พาน จ.เชียงราย หนึ่งในสมาชิกสหกรณ์ฯ เล่าว่า จากการตรวจสอบบัญชีของตนซึ่งเคยกู้เงินกับสหกรณ์ดังกล่าวตั้งแต่ปี 62 และได้จ่ายชำระไปจนหมดแล้ว แต่พอมาตรวจสอบพบว่ามียอดกู้เงินพิเศษ จำนวน 400,000 บาท มีดอกเบี้ย 80,000 กว่าบาท และมีเงินกู้สามัญอีกกว่า 30,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอีก 6,000 กว่าบาท และในส่วนของเงินฝากตนเองที่มีอยู่ 567,257 บาท ถูกถอนออกจากบัญชีไปเกือบหมด เหลือติดบัญชีเพียง 7,160 บาท ส่วนบัญชีของนางลัดดา อินทร์จันทร์ อายุ 60 ปี ภรรยาของตน ซึ่งมีเงินฝากอยู่ประมาณ 1,400,000 บาท ถูกถอนเงินออกไป เหลือติดบัญชีเพียง 1,300 บาท คือนอกจากเงินจะหายจากบัญชีแล้วยังติดหนี้เงินกู้เพิ่มอีกด้วย

ด้านนางดวงฤทัย ไชยวรรธนะ อายุ 69 ปี ชาวบ้าน ต.แม่แฝก อ.แม่ใจ จ.พะเยา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนและสามีได้เคยเอาเงินมาฝากที่สหกรณ์ฯคนละ 500,000 บาท รวมเป็น 1,000,000 บาท แต่ได้ถอนออกมาใช้แล้ว 300,000 บาท คงเหลือในบัญชี 700,000 บาท พอช่วงเดือน พ.ค. 63 ผจก.สหกรณ์ได้ไปหาตนเพื่อขอให้ตนเอาเงินไปฝากอีก 1,300,000 บาท เพื่อจะได้ทำเรื่องปิดบัญชีและขอกู้เงินมาจ่ายปันผลให้สมาชิกสหกรณ์ แต่ปรากฏว่ากู้ไม่ได้ตาม ผจก.บอก พยายามขอถอนเงินคืนก็ไม่ได้ แถมญาติพี่น้องตนบางรายนอกจากเงินหายแล้วยังเป็นหนี้เพิ่มอีกด้วย

เช่นเดียวกับนายก่วน พรมใบ ชาวบ้าน ต.แม่เย็น เผยว่า กรณีของตนได้จ่ายหนี้เงินกู้ไปหมดแล้ว แต่ปรากฏว่ามียอดเงินกู้เพิ่มมาอีก 105,000 กว่าบาท อยากให้ผู้เกี่ยวข้องมาช่วยแก้ปัญหาให้ด้วย

สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ดังกล่าว ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2525 ถึงปัจจุบันมีอายุกว่า 39 ปีแล้ว มีสมาชิกทั้งชาว ต.แม่เย็น และพื้นที่ใกล้เคียงจำนวน 800 กว่าคน มีเงินหมุนในระบบประมาณ 27 ล้านบาท ซึ่งจากข่าวดังกล่าวทำให้สร้างความไม่สบายใจให้กับบรรดาชาวบ้านที่เป็นสมาชิก จนต้องมาขอตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ ซึ่งได้มาบริการชาวบ้านที่วัดแม่เย็นเหนือ ม.3 ต.แม่เย็น อ.พาน โดยเจ้าหน้าที่จากกรมสหกรณ์เผยกับผู้สื่อข่าวว่า จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) เพื่อสำรวจยอดผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายทั้งหมด เพราะยังมีอีกหลายหมู่บ้านที่ยังไม่ถึงคิวมาตรวจสอบ หลังการตรวจสอบเสร็จสิ้นก็จะให้ชาวบ้านแต่งตั้งตัวแทนเพื่อไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์จังหวัด ที่ สภ.พาน

ด้านชาวบ้านบางรายที่พอจะมีข้อมูลผู้กระทำผิด ได้ฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยคุมตัวไว้ก่อน เพราะกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะหลบหนีหรือทำร้ายตัวเองอีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น