เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (10 ก.ย. 64) รายงานข่าวแจ้งว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 ทหาร ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 5,900,000 เม็ด รถยนต์อีกจำนวน 4 คัน และผู้ต้องหาที่อยู่ในขบวนการดังกล่าว เป็นชายทั้งสิ้น 5 คน อายุ 24-25 ปี ขณะกำลังลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยมีปลายทางไปยังพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ถูกจับกุมได้ที่บริเวณด่านตรวจยาเสพติดแม่โถ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ต่อเนื่องปั๊มน้ำมัน ป.ต.ท.สาขาเวียงป่าเป้า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา
โดยทางด้าน พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 กล่าวถึงการดำเนินการจับกุมครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ทำการตรวจสอบและคัดกรองรถยนต์ผ่านด่านตรวจ พบรถยนต์ของกลุ่มคนชนเผ่าม้งบ้านทุ่งนาน้อย ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย เดินทางไปในเส้นทางที่ผิดปกติจากพื้นที่ชายแดนด้าน จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ เชื่อว่าเป็นรถยนต์ของกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติด ต่อมาในช่วงค่ำคืนพบรถยนต์เป้าหมายทั้ง 4 คัน ขับออกมาจากพื้นที่ อ.เชียงของ ผ่าน อ.พญาเม็งราย, อ.เวียงชัย, อ.เมืองเชียงราย, อ.แม่ลาว อ.แม่สรวย และ อ.เวียงป่าเป้า มุ่งหน้ามาพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ลักษณะรถนำและตามกันเป็นขบวน ห่างกันประมาณ 1-5 กม. จนมาถึงจุดสกัดบริเวณด่านตรวจแม่โถ ต.แม่เจดีย์ อ.เวียงป่าเป้า ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสกัดตรวจค้น
โดยจากการตรวจค้นภายในรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว กระบะท้ายติดตั้งตู้ทึบ เลขทะเบียน 1ฒร 2051 กทม. พบของกลางยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และจากการสอบถามทางผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่า จะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.เชียงของ ไปส่งยังพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ค่าจ้างจำนวน 2 ล้านบาท นอกจากนี้ จากการสืบสวนขยายผล ยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้อง เป็นเงินสด 200,000 บาท ทองรูปพรรณ น้ำหนักประมาณ 2 บาท, รถยนต์ 2 คัน, บ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 1 หลัง รวมมูลค่าทรัพย์สิน ประมาณ 3 ล้านบาท
ผบช.ภ.5 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากการสืบสวนขยายผล และติดตามกวาดล้างขบวนการยาเสพติดในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ภาคเหนือ พบว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดเหล่านี้ จะอาศัยการลำเลียงยาเสพติดในปริมาณมหาศาล และจากการตรวจสอบ พบว่ากลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดกลุ่มนี้พบว่ามีการขับรถตามกันเป็นขบวน โดยมีรถนำและปิดท้าย เพื่อที่จะสามารถแจ้งเตือน หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจจุดสกัด ก็จะเลี่ยงจุดตรวจดังกล่าว และนอกจากนี้ กลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดกลุ่มนี้ ยังมีการติดต่อสื่อสารกันตลอดเส้นทาง เพื่อให้การลำเลียงยาเสพติดนั้นถึงเป้าหมายให้ได้
อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนทำให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบว่า รถทั้งหมดมีความผิดปกติ จึงนำไปสู่การสกัดจับกุมได้ในที่สุด ขณะเดียวกัน ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาตามพื้นที่ชายแดนนั้นยังมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็ยังมีการบูรณาการป้องกันการสกัดกั้นและการขยายผล แต่อย่างไรก็ตามก็อยากขอความร่วมมือกับทางประชาชน หากพบเบาะแสต้องสงสัยของกลุ่มขบวนการยาเสพติด ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบ เพื่อร่วมแรงร่วมใจกันในการปราบปราม และป้องกันยาเสพติดอีกทางด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น