บิดเบือน! ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ติดโควิด-19 ทั้งเกาะ แต่ปิดข่าว

วันที่ 18 ก.ย. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวบิดเบือน เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่อง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ติดโควิด-19 ทั้งเกาะ แต่ปิดข่าว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

กรณีที่มีการโพสต์ข้อความว่า ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตอนนี้ติดโควิด-19 ทั้งเกาะ ร้านค้าทยอยปิด นักท่องเที่ยวไม่มี แต่ปิดข่าวนั้น ทางสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า จังหวัดภูเก็ตพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จริง แต่ไม่มีการปิดข่าว และรายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดทุกวัน

โดยสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดภูเก็ต ของวันที่ 17 กันยายน 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัด 235 ราย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 0 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสมระหว่างวันที่ 3 เมษายน – 17 กันยายน จำนวน 8,297 ราย

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมจากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://pr.prd.go.th/phuket หรือโทร. 076-216118

บทสรุปของเรื่องนี้ : จังหวัดภูเก็ตพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จริง แต่ไม่มีการปิดข่าว และรายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดทุกวัน

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น