ผู้ประกอบการเชียงแสนและเชียงของ ยื่นหนังสือร้องขอเปิดชายแดนเชื่อมลาว วอนพิจารณาเพิ่มรายชื่อเปิดเมือง

วันที่ 26 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนืองจากวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา น.ส.กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย นายบุญเชิด ลีลาคุณากร ท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงราย พร้อมด้วยนายวชิระ รัศมีจันทร์ ประธานชมรมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย และฝ่ายเอกชนที่เกี่ยวข้องได้สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อรองรับฤดูการท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงในฤดูหนาวนี้

ในโอกาสนี้ นายวชิระ เป็นตัวแทนภาคเอกชนยื่นหนังสือต่อ น.ส.กรุณา และ นายบุญเชิด เพื่อให้ส่งถึงรัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขอให้เปิดชายแดนไทยที่ติดกับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เนื่องจากก่อนหน้านี้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมาว่าจะมีการเปิดด่านชายแดนไทยเฉพาะจุดหรือบับเบิ้ลชายแดน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะแรกทยอยเปิดตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.2564 เริ่มต้นจาก จ.ภูเก็ต หรือภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์( Phuket Sandbox) สมุยพลัสโมเดล(Samui Plus Model) จ.สุราษฎร์ธานี ฯลฯ แต่ในระยะที่ 4 ที่จะเป็นการเปิดบับเบิ้ลเมืองชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-15 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป ปรากฎว่า จ.เชียงราย ระบุให้เปิดเฉพาะด้าน อ.แม่สาย ที่ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เท่านั้น แต่ด้านที่ติดกับ สปป.ลาว ตั้งแต่ อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย กลับไม่ปรากฎมีรายชื่ออำเภออยู่ในระบบ มีเพียง จ.นครพนม หนองคาย และมุกดาหาร เท่านั้น ดังนั้นภาคเอกชนจึงเห็นว่าควรเปิดบับเบิ้ลเมืองชายแดน ด้าน อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ ควบคู่กันไปด้วยเพราะมีศักยภาพเหมือนกับ อ.แม่สาย เช่นเดียวกัน

นายวชิระ กล่าวว่า เนื่องจาก จ.เชียงราย มีจุดผ่านแดนถาวรที่ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ ซึ่งต่างมีศักยภาพในการนำเข้าและส่งออกสินค้า การให้บริการเข้าและออกเมือง การบริการด้านเอกสารผ่านแดนทั่วไป หนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ต ฯลฯ โดยเป็นด่านสากลเหมือนกันแต่ในการเปิดบับเบิ้ลเมืองชายแดนกลับให้เปิดเฉพาะจุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย เพียงจุดเดียว ทำให้เชื่อว่าอาจเกิดจากการตกหล่นในรายชื่อ ทั้งนี้นอกจากนี้ จ.เชียงราย ยังมีจุดผ่านแดนหลายจุดนอกเหนือจาก อ.แม่สาย คือจุดผ่านแดนถาวรที่ อ.เชียงแสน ติดต่อกับเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งแบ่งเป็น 2 จุดคือจุดผ่านแดนถาวรเชียงแสนตรงกันข้ามที่ว่าการ อ.เชียงแสน และจุดผ่านแดนสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน อีกด้วย

ขณะที่ อ.เชียงของ มีจุดผ่านแดนถาวรเชียงของตรงสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ติดต่อกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ซึ่งมีถนน R3a เชื่อมไปถึงประเทศจีน จากศักยภาพของจุดผ่านแดนทั้ง 2 อำเภอ จึงสามารถส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวได้ แต่น่าเสียดายหากไม่ปรากฎรายชื่อในการเปิดบับเบิ้ลเมืองชายแดนดังกล่าว ดังนั้นภาคเอกชนจึงได้ยื่นหนังสือผ่านทั้ง 2 หน่วยงานเพื่อให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พิจารณาเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวที่ไปเยือน จ.เชียงราย จะเป็นคนไทยมากถึงร้อยละ 80 ที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวจากชาติตะวันตกประมาณ 2-3% ที่เหลือเป็นชาวจีนกว่า 15-18% จึงเล็งเห็นถึงศักยภาพเมืองชายแดนที่เหมาะสมเปิดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยือน ส่วนประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเมื่อเห็นถึงศักยภาพก็จะทยอยเปิดเพื่อให้ติดต่อเชื่อมโยงกันได้ต่อไป ทั้งนี้ทั้งหมดขึ้นอยู่บนพื้นฐานของมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดทั้งภายในและระหว่างประเทศต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น