ลุยพัฒนาเครือข่ายถนน โซนเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน-เชียงราย

ที่ปรึกษา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 วงเงินรวม 208,455.2336 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายลงทุน 171,860 ล้านบาท รายจ่ายประจำ วงเงิน 16,283 ล้านบาท และชำระเงินกู้ 20,311 ล้านบาท “งบประมาณแต่ละปีที่ได้รับจัดสรร แตกต่างกันไปปี 2563 ได้งบ 208,315 ล้านบาท ปี 2564 ได้ 227,894 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าทำให้ต้องปรับลดการใช้จ่ายและการลงทุนในปี 2565 ลง ซึ่งในงบปี 2565นั้น กรมทางหลวง (ทล.) ได้รับ113,348.0486 ล้านบาท กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ประมาณ 45,851.7526 ล้านบาท ”

ทั้งนี้งบลงทุนปี 2565 วงเงิน 4.84 แสนล้านบาท จะเป็นการลงทุนทางระบบรางมากสุดวงเงิน248,728.9755
ล้านบาท ( 51.36%) รองลงมาเป็นด้านคมนาคมทางบก วงเงิน 209,674.9636 ล้านบาท (สัดส่วน 43.29%)
สำหรับกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในปี 2565งบส่วนใหญ่ที่ได้รับจะเป็นงานต่อเนื่อง สัญญางานผูกพันจากปีก่อน และงานซ่อมบำรุงถนนทั่วประเทศ และงานก่อสร้างขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม โครงการขนาดใหญ่ที่วางแผนจะเริ่มดำเนินการปี 2565อาทิ โครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323.10 กม. มูลค่าก่อสร้าง 72,921 ล้านบาท ยังติดปัญหาถูกร้องเรียนการประมูลซึ่ง นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบในประเด็นที่มีการร้องเรียนก่อนจะตัดสินใจว่าจะเดินหน้าหรือจะต้องยกเลิกประมูลแล้วไปเริ่มทำทีโออาร์กันใหม่

ในส่วนแผนงานโครงการขนาดใหญ่ที่มีวงเงินตั้งแต่ 1 พันล้านบาทขึ้นไป ที่มีแผนดำเนินงานปี 2565 ได้รับความเห็นชอบจาก ครม.เมื่อ 12 ม.ค. 2564 27 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 48,620 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการปี 2565-2567
แบ่งเป็นโครงการที่กรมทางหลวงรับผิดชอบ 20 โครงการ วงเงินรวม 36,280 ล้านบาท ดำเนินการในปี 2565 วงเงิน
7,256 ล้านบาท ดำเนินการในปี 2566 วงเงิน 14,512 ล้านบาท ดำเนินการในปี 2567 วงเงิน 14,512 ล้านบาท
ประกอบด้วยโครงการก่อสร้าง ทล. 101 สายน่าน-อ.เฉลิมพระเกียรติ ตอนบ้านปอน-อ.เฉลิมพระเกียรติ วงเงิน 1,300
ล้านบาท. ,โครงการก่อสร้าง ทล. 1020 สายเชียงราย-เชียงของ ตอนบ้านห้วยดอน-บ้านใหม่ดอยลาน วงเงิน 1,000 ล้านบาท ,โครงการก่อสร้าง ทล.107 สายเชียงใหม่-อ.แม่จัน ตอนฝาง-แม่อาย วงเงิน 1,200 ล้านบาท โครงการก่อสร้าง ทล.118 สายเชียงใหม่-เชียงรายตอน อ.แม่สรวย-บรรจบ ทล. 1 วงเงิน 2,000 ล้านบาท เป็นต้น

ส่วนที่ ทช.ดูแลมี 7 โครงการคือ วงเงินรวม 12,340 ล้านบาท ดำเนินการในปี 2565 วงเงิน 2,468 ล้านบาท ดำเนินการในปี 2566 วงเงิน 4,936 ล้านบาท ดำเนินการในปี 2567 วงเงิน 4,936 ล้านบาท เช่น ถนนสายแยก ทล.11 (ลำปาง-เชียงใหม่ กม.3+800)- ทล.1 กม.712+300) ลำปาง วงเงิน 1,100 ล้านบาท ด้าน กรมทางหลวง (ทล.) ระบุว่า กรมฯ เสนองบปี 2565 กว่า 2.38 แสนล้านบาท ได้รับจัดสรรประมาณ 1.15 แสนล้านบาท ถูกตัดร่วมๆ 50% ที่ได้รับการพิจารณาจัดสรรงบปี 2565 ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มีมูลค่าไม่เกิน 300 ล้านบาท จำนวน 16 โครงการวงเงินทั้งสิ้น 4,490 ล้านบาท เช่น โครงการก่อสร้างทล.1088 ออบหลวง-แม่ซา จ.เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน ระยะทาง 47.71 กม. วงเงิน 260 ล้านบาท โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 1263 ปางอุ๋ง-แม่นาจร จ.เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน ระยะทาง 33.56 กม. วงเงิน 180 ล้านบาทโครงการก่อสร้างทล. 1091 พะเยา-น่าน ตอน บ.สระ-บ.ไชยสถาน ระยะทาง 13.2 กม. วงเงิน 300 ล้านบาท

“ที่ผ่านๆ มาโครงการก่อสร้างถนนถือว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่สำคัญของประเทศ เป็นการลงทุนที่ภาครัฐใช้เป็นเครื่องมือช่วยขับเคลื่อนกระตุ้นระบบเศรษฐกิจชุมชน แต่ละจังหวัด ภูมิภาคได้เป็นอย่างดี แต่ในสถานการร์โควิด 19 นี้ การจัดเก็บภาษี รายได้ มีผลต่องบโดยรวมของประเทศ ดังนั้น การดำเนินการโครงการ ในงบปี 2565 ที่จะเริ่ม 1 ตค.นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นงบผูกพัน และงบที่ไม่ต้องลงทุนมากนัก” ล่าสุดในพื้นที่ ภาคเหนือ ทางสำนักสร้างทางที่ 1 มีการประกาศแผนจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ2565 ไปแล้ว หลายรายการ ซึ่งจะมีโครงการจ้างเหมาบูรณะทางหลวง 1263 สายปางอุ๋ง -แม่นาจร วงเงิน180 ล้านบาท สาย 1088 ออบหลวง-แม่ซา เป็นตอนๆ วงเงิน 260 ล้านบาท ตามแผนแล้ว ตค.นี้น่าจะทราบผลผู้รับจ้าง และเร่งดำเนินการตามแผนต่อไป จริงๆ แล้ว โครงการ พัฒนาเครือข่าย ถนน แต่ละเส้นทาง ถ้าหากไม่มีการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน มีการตั้งงบดำเนินการไว้แล้ว ส่วนใหญ่จะต้องรอจนกว่าจะมีแหล่งเงินลงทุนทั้งนั้น”

ที่ผ่านๆ มากรมทางหลวง (ทล.) โดยสำนักงานทางหลวงที่ 1 (เชียงใหม่) ได้ดำเนินโครงการพัฒนาเครือข่ายทางหลวงหมายเลข 1263 ตอน ปางอุ๋ง-แม่นาจร จ.แม่ฮ่องสอน มาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเส้นทาง สร้างรายได้ภาคบริการ ภาคการท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพ เป็นทางหลวงสวยงามเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวไปสู่เทศกาลดอกบัวตองบานบนดอยแม่อูคอ ณ ดอยแม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เช่นเดียวกับสายทาง 1088 ออบหลวง แม่ซา ที่เป็นเส้นทางท่องเที่ยว และ ช่วยอำนวยความสดวกประชาชน ในภาคการขนส่ง การเกษตรอีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น