กรมอนามัย เตือน ประชาชนดื่มน้ำผุด เชื่อศักดิ์สิทธิ์รักษาโรค ระวังป่วยโรคท้องร่วง

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนที่มีความเชื่อเมื่อพบแหล่งน้ำผุดตามสถานที่ต่างๆ ว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ นำมาดื่ม กิน เพื่อรักษาโรคนั้น อาจจะมีอันตรายต่อสุขภาพเพราะเป็นน้ำที่ไม่สะอาด ไม่เหมาะสมสำหรับใช้ดื่มกิน เสี่ยงต่อการได้รับสารพิษและเชื้อโรค

​นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากที่มีการนำเสนอข่าวพบน้ำผุดกลางถนน สายซับสมอทอด-ไพศาลี หน้าศาลเจ้าพ่อขุนด่านธงชัย ต.ซับไม้แดง อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ และเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์นำไปดื่มเพื่อรักษาโรคภัยและปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายนั้น ในเบื้องต้นขอให้ประชาชนอย่าได้นำน้ำดังกล่าว ไปดื่มกิน แม้ว่าน้ำนั้นจะมองดูใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นก็ตาม เนื่องจากอาจจะมีเชื้อโรคจำพวกแบคทีเรีย โปรตัวชัว ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าปนเปื้อนอยู่ได้ จนอาจทำให้เกิดโรคจากน้ำเป็นสื่อตามมา

ซึ่งจะมีอาการตั้งแต่ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลวหรืออุจาระร่วง จนสูญเสียน้ำ เกลือแร่ ในร่างกายมากทำให้ช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้ นอกจากนั้นอาจจะมีสารเคมีจำพวกโลหะหนักที่อาจจะปนเปื้อนในน้ำนั้นได้ เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู เสี่ยงต่อการได้รับสารพิษสะสมในร่างกาย ดังนั้น จึงควรรอให้ทางหน่วยงานราชการพิสูจน์แหล่งที่มาและคุณภาพน้ำให้ชัดเจนก่อน ซึ่งจากการสุ่มตรวจสอบคุณภาพน้ำบริโภคในปี 2563 พบว่าน้ำบริโภคที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น น้ำบ่อตื้น น้ำลำธารหรือน้ำห้วย หรือเรียกว่าน้ำประปาภูเขา ซึ่งเป็นน้ำที่มีลักษณะคล้ายๆ กับน้ำผุดดังกล่าว ไม่มีความเหมาะสมสำหรับการนำมาบริโภคเลย สาเหตุสำคัญคือปนเปื้อนโคลิฟอร์มแบคทีเรียและฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย บ่งบอกว่ามีโอกาสปนเปื้อนจากเชื้อโรคสูง

​“ทั้งนี้ ประชาชนควรให้ความสำคัญกับการเลือกน้ำสำหรับบริโภคในครัวเรือน ควรเลือกดื่มน้ำที่สะอาด และราคาถูก เช่น น้ำประปา ที่มีกระบวนการผลิตได้มาตรฐาน น้ำมีคุณภาพเหมาะสมต่อการบริโภค ที่สำคัญมีคลอรีนสำหรับฆ่าเชื้อโรคตกค้างอยู่ด้วย ซึ่งสังเกตง่ายๆ จะได้กลิ่นคลอรีนในน้ำประปาที่บ่งบอกว่าน้ำประปาสะอาด และปลอดภัย” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น