(มีคลิป) “ประจญ” ลงพื้นที่ประสบภัยพายุลมแรงต้นยางโค่น 5 ครัวเรือนเสียหายหนัก เร่งแก้ปัญหาไฟฟ้า หลังกระทบ 2 พันครัวเรือน

วันที่ 2 ต.ค. 2564 ในพื้นที่ตำบลสารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชกาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามการให้ความช่วยเหลือประชาชนและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากพายุลมแรงที่ทำให้เกิดต้นยางใหญ่โค่นล้มทับบ้านเรือนราษฎร เสา/สายไฟฟ้า เสียหลายเป็นบริเวณกว้าง ในช่วงบ่ายของวันที่ 1 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา

หลังจากการประชุมสรุปสถานการณ์และลงตรวจพื้นที่ให้กำลังใจราษฎรที่ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า พายุเกิดขึ้นเมื่อวาน (1 ต.ค.) ในช่วงบ่าย เป็นพายุที่รุนแรงทำให้ต้นยางที่มีอายุกว่า 100 ปี โค่นล้มกว่า 10 ต้น ในขณะที่ต้นยางล้มไปพาดสายไฟฟ้าส่งผลให้เสาไฟฟ้าหักโค่นอีกกว่า 40 ต้น รวมถึงบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ในแนวล้มของต้นยางและเสา/สายไฟฟ้าอีกหลายหลัง เมื่อเย็นวานได้มีการแก้ปัญหาพื้นเปิดเส้นทางจราจรบนถนนเชียงใหม่-ลำพูน และที่ต้องแก้ไขตามมาคือไฟฟ้า

“ขณะนี้การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับต้นไม้ล้มกีดขวางถนนได้ดำเนินการเสร็จแล้ว ที่ต้องดำเนินการต่อคือ ไฟฟ้า ซึ่งการไฟฟ้าได้นำเครื่องจักรต่างๆ เสาไฟฟ้า สายไฟฟ้าเข้าพื้นที่เพื่อมาดำเนินการแก้ไขให้เสร็จให้ได้ภายในวันนี้ ที่เป็นอุปสรรคคือการจัดการจราจรก็ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาอำนวยความสะดวกแล้ว โดยจะปิดการจราจรในช่วงที่ต้องเร่งดำเนินการปักเสาพาดสายไฟฟ้า” ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว

นายประจญฯ กล่าวอีกว่า สำหรับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้รับความเดือนร้อน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่และเทศบาลในพื้นที่ได้ร่วมกันสนับสนุนอาหารให้แก่พี่น้องประชาชน ด้านอำเภอสารภีได้ทำการสำรวจในเบื้องต้นพบว่ามีบางส่วนที่ไปพักอาศัยกับญาติพี่น้อง ที่ภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้ช่วยกันเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ อีกส่วนคือหน่วยงานป่าไม้ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกในการจัดการไม้ที่ต้องตัดซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ก็จะทำการขนย้ายไปกองไว้ในที่สาธารณะที่เทศบาลในพื้นที่ได้เตรียมไว้

“นี่คือภาพโดยรวมของสถานการณ์ในวันนี้ และทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยกันจะพยายามทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะไฟฟ้าซึ่งทาง กฟภ. จะพยายามดำเนินการให้ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าได้มากที่สุดโดยเฉพาะเส้นทางหลักจะทำให้เสร็จ ส่วนเส้นทางรองได้ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านฯ สำรวจแล้วว่าต้องแก้ไขที่ไหนบ้าง ในภาพรวมบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงมีอยู่ราว 30 กว่าหลังคาเรือน ส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ก็มีอีกราว 300-400 หลังคาเรือน” ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว

ด้าน นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า อบจ.เชียงใหม่ ได้ระดมเครื่องมือเครื่องจักรเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ในวันนี้ยังได้ระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างและสำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเข้ามาช่วยกัน นอกจากนี้ยังได้จัดเครื่องยังชีพมาแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อน เพื่อบรรเทาในเบื้องต้น

“สำหรับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นด้วยว่าถนนสายนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.เชียงใหม่ ซึ่งก็พร้อมที่จะเยียวยาบรรเทาความเสียหายชดใช้ค่าเสียหายให้แก่พี่น้องประชาชน โดยในการประชุมที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ได้เสนอที่ประชุมให้ทางอำเภอสารภีทำเรื่องของประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ตรงนี้จะส่งผลให้การเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเสียหายก็จะมีหลายหน่วยงานที่สามารถเข้ามาให้ความช่วยเหลือได้ ซึ่งจะไม่ใช่เฉพาะ อบจ.เชียงใหม่ หน่วยงานเดียว ซึ่งจะมีกระบวนการในการขอรับการชดเชยเยียวยา แต่เบื้องต้นที่ต้องแก้ไขให้เสร็จก่อนคือ ต้องเอาต้นไม้ กิ่งไม้ที่หักโด่นออกให้หมดก่อน และดำเนินการให้ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าได้ 100% ให้ได้ก่อน จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นต้อนการเยียวยา ซึ่งจะดำเนินการให้ได้มากที่สุดต่อไป” นายก อบจ.เชียงใหม่ กล่าว

ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่รายงานความคืบหน้าการดำเนินการเหตุพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 ว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุคือ พื้นที่หมู่ที่ 2-8 และหมูที่ 10 ถนนเชียงใหม่-ลำพูน (สายเก่า) ตำบลสารภี อำเภอสารภี มีต้นยางนาโค่นล้ม จำนวน 10 ต้น ต้นไม้ใหญ่ล้ม 2 ต้น เสาไฟฟ้าแรงสูงเสียหาย 41 ต้น เสาไฟฟ้าแรงต่ำเสียหาย 8 ต้น บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 67 หลังคาเรือน (เสียหายหนัก 5 หลังคาเรือน) ส่งผลให้ไฟฟ้าดับในพื้นที่เป็นวงกว้างกว่า 2,000 ครัวเรือน นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ นางเสาวนีย์ ขันคำ อายุ 66 ปี ซึ่งได้นำส่งรักษาตัวที่ รพ.สารภี

ร่วมแสดงความคิดเห็น