พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนการกระทำที่ไม่เหมาะสมและเผยแพร่ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ มีโทษหนักทั้งโทษจำคุกโทษปรับ

ในปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ประชาชนต้องอยู่บ้าน และมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์กันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดสื่อสังคมออนไลน์แพลตฟอร์มใหม่ๆ ขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่ก็มีซึ่งเป็นที่มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายคน นำเสนอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเนื้อหาที่มีลักษณะลามกอนาจาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และนิยมเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม Onlyfans

ดังเช่นในกรณีที่ปรากฎคลิปชายหญิงคู่หนึ่ง มีเพศสัมพันธ์กันที่บริเวณริมถนนสาธารณะแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งคลิปดังกล่าวก็ได้มีการเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์หลายช่องทาง ทั้งบน Onlyfans และสื่ออื่นๆ โดยในตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวน และได้ทราบตัวเจ้าของบัญชีที่ใช้รับเงินค่าสมาชิกแล้ว แต่ยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด รวมถึงจะขยายผลติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องรายอื่นๆ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และฝากเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดว่าให้หยุดการกระทำของท่านเสีย เพราะการกระทำของท่านนอกจากจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและผิดกฎหมายแล้ว อาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้ อย่าคิดถึงแต่เพียงรายได้จากการกระทำดังกล่าว เพราะอาจมีผู้ไม่หวังดีนำภาพ และคลิปวิดีโอ มาคุกคามความเป็นส่วนตัวของท่าน และสิ่งเหล่านี้อาจจะย้อนกลับมาทำร้ายท่านได้ในภายหลัง

การกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าสู่ข้อมูลที่มีลักษณะลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,00 บาท ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานกระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัลหรือกระทำการลามกอย่างอื่น มีปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน เลือกรับสื่อต่างๆ ที่มีเนื้อหาเหมาะสม หลีกเลี่ยงการรับสื่อที่ไม่เหมาะสมหรือสุ่มเสี่ยงว่าจะผิดกฎหมาย และไม่สนับสนุนการกระทำที่ไม่เหมาะสม ส่วนผู้ปกครองก็ต้องคอยควบคุมดูแลการเลือกรับสื่อของบุตรหลาน รวมถึงพฤติกรรม และให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ อย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้บุตรหลานใช้สื่อต่างๆ เพียงลำพัง นอกจากนี้หากประชาชนพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ร่วมแสดงความคิดเห็น