ข่าวซ็อกวงการ กีฬาไทย จากวาด้า ที่ห้ามไทยจัด 1 ปี หวัง 4 เดือนแก้กฎปลดแบน

จากข่าวช็อกวงการกีฬาไทย องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดา (World Anti-Doping Agency: WADA) ประกาศไม่ให้การรับรอง ไทย, เกาหลีเหนือ และอินโดนีเซีย โดยในส่วนของไทย ยังไม่ได้ปฏิบัติตามธรรมนูญของวาดา ในด้านของการบังคับใช้กฎหมาย ตามที่วาดา ต้องการให้แยกหน่วยงานตรวจสารกระตุ้นเป็นอิสระ ผลกระทบต่อไทยคือ จะไม่สามารถจัดแข่งขันระดับนานาชาติทั้งระดับภูมิภาค ทวีป หรือระดับโลก, บุคลากรไม่มีสิทธิร่วมคณะกรรมการบอร์ดหน่วยงานการกีฬาต่างๆ และการแข่งระดับนานาชาติ แม้จะลงแข่งได้ แต่จะไม่ให้ใช้ธงชาติไทย ในรายการที่วาดาดูแล

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กกท. อยู่ระหว่างการรับการประเมินผลการดำเนินการการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม แบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ 1. Audit Programs ตรวจสอบประเมินการปฏิบัติงานของสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ซึ่ง กกท.ได้ดำเนินการแก้ไข และการปฏิบัติงานตามข้อเสนอแนะของ วาดา และยังอยู่ในระหว่างการตรวจประเมินของ วาดา ซึ่งจะสิ้นสุด ในวันที่ 17 พ.ย.64 2.Continuous Monitoring Program ซึ่ง วาดา ได้ให้การรับรองกฎการต่อต้านการใช้ สารต้องห้ามของสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เรียบร้อยแล้ว และ 3. พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 ซึ่ง วาดา ได้ทำการตรวจสอบพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 พบว่า มีข้อกำหนด ในบางมาตราที่ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ตามที่ประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ฉบับ ค.ศ. 2021 กำหนดไว้


ดังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กกท. สำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ได้เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 ก.ย.64 ครม. มีมติมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กกท. และคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกันพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 อาทิ การกำหนดให้หน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมการใช้สารต้องห้ามของประเทศไทย เป็นหน่วยงานอิสระ แก้ไขบทนิยามเกี่ยวกับสารต้องห้ามทางการกีฬา เป็นต้น ให้สอดคล้องกับประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก พิจารณารูปแบบความเหมาะสมที่จะตราเป็นกฎหมายตามหมวด 16 การปฏิรูปประเทศของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือตราเป็นพระราชกำหนดตามมาตรา 172 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไปโดยเร็ว

ทั้งนี้หากประเทศไทยแก้ไขกฎหมายล่าช้า จะส่งผลให้ไม่สามารถส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ หรือเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติได้ กระทบต่อวงการกีฬาของประเทศ และภาพลักษณ์ของประเทศไทย รวมทั้ง อาจสูญเสียมูลค่าทรัพย์สินทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก จึงสมควรแก้ไขกฎหมายในเรื่องนี้ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ภายใน 3-4 เดือน ขณะนี้ การดำเนินการอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ร่วมแสดงความคิดเห็น