เผยคลิปวงจรปิดวัยรุ่นหญิง รุมตบคู่อริคาปั๊มน้ำมัน เหตุหึงหวงแย่งหนุ่มวัย 18 ปี ด้านผู้การเชียงใหม่สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กำชับ 4 โรงพัก ดูแลเหตุวัยรุ่นป่วนเมือง สร้างความมั่นใจให้ ปชช.
จากกรณีภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.สี่แยกสวนหลวงราชพฤกษ์ ถนนเลียบคลองชลประทาน ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นหญิงอายุประมาณ 13-14 ปี จับกลุ่มก่อเหตุทะเลาะวิวาท โดยภายในคลิปดังกล่าว ได้มีกลุ่มหญิงสาววัยรุ่นกลุ่มใหญ่ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาภายในปั๊ม แล้วจับกลุ่มกันบริเวณหน้าห้องน้ำ เพื่อรอฝ่ายคู่กรณี ก่อนที่อีกฝ่ายจะขับรถจักรยานยนต์ซ้อน 4 เข้ามาจอดบริเวณจุดเติมน้ำมันที่ปั๊มดังกล่าว และทางฝ่ายหญิงสาวกลุ่มที่มาจับกลุ่มก่อนหน้านี้ ก็ได้เดินเข้ามากระชากศีรษะของหญิงสาว สวมเสื้อยืดสีดำกางเกงขาสั้น จนอีกฝ่ายจนล้มลงแล้วพากันรุมทำร้ายจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงค่ำคืนของวันที่ 8 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา
ขณะที่ในเวลาต่อมา หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุ และเข้าทำการตรวจสอบ พบว่าหญิงสาวที่ถูกทำร้ายคือ ด.ญ.เนย (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ซึ่งทางเจ้าตัวบอกว่า ได้ถูกกลุ่มหญิงสาวที่รุมทำร้ายพาตัวขึ้นรถจักรยานยนต์ โดยบอกว่าจะพาไปเคลียร์ปัญหากรณีหึงหวงหนุ่มวัย 18 ปี ที่ก่อนหน้านี้มีการท้าทายผ่านเฟซบุ๊ก แล้วเมื่อมาถึงปั๊มน้ำมันก็ถูกกลุ่มหญิงสาวดังกล่าวรุมทำร้าย ซึ่งหลังจากมีข่าวเหตุการณ์นี้ปรากฎขึ้น ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องมีการตรวจสอบกรณีดังกล่าว
ขณะที่ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (10 ต.ค.64) ทางด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น และตรวจสอบหลักฐานซึ่งเป็นภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหแล้วนั้น เบื้องต้นได้มีการสั่งการให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ และทางผู้กำกับ สภ.เมืองเชียงใหม่ รับผิดชอบในการสอบปากคำ และในเบื้องต้นตอนแรกเด็กจะไม่ยอมถูกดำเนินคดี แต่ทางตนก็ได้มีการสั่งการไปแล้วว่า และจะได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าของกรณีที่เกิดขึ้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ อีกครั้ง ซึ่งได้มีการเรียกประชุมร่วมกับทางผู้กำกับของ 4 โรงพักในเชียงใหม่ ซึ่งตนยืนยันว่าในกรณีเหตุการณ์เกี่ยวกับกลุ่มวัยรุ่นหลายคดีจะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว และเพื่อความสงบสุขในพื้นที่มากที่สุด
ร่วมแสดงความคิดเห็น