วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลาง ประกอบพิธีมังคลาภิเษกและพิธีบรรจุหัวใจอนุสาวรีย์เจ้าพระยาครานเมือง อดีตเจ้าผู้ครองนครน่าน

 

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 เวลา 09.00 น. ที่ ลานอนุสาวรีย์เจ้าพระยาครานเมือง วัดพระธาตุแซ่แห้ง  ตำบลม่วงตึ๊ดอำเภอภูเพียงจังหวัดน่าน
พระอารามหลวง พระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดน่าน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายบัณฑูร ล่ำซำ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดน่าน ประกอบพิธีมังคลาภิเษกและพิธีบรรจุหัวใจอนุสาวรีย์เจ้าพระยาครานเมือง อดีตเจ้าผู้ครองนครน่าน ราชวงศ์ภูเพียงแช่งแห้ง ณ มณฑลพิธีลานโพธิ์ วัดพระธาตุแช่แห้ง
พระอารามหลาง ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน


พระชยานันทมุนี เจ้าคณะอำเภอภูเพียง เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลาง กล่วว่า วันนี้เป็นมหามงคลสมัยที่สำคัญ คือขั้นตอนในการพุทธาภิเษกอันเชิญหัวใจพระยาครานเมือง ซึ่งเป็นปฐมบรมกษัตริย์ของราชวงศ์
ภูเพียงแช่งแห้ง และได้อันเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากเมืองสุโขทัยมาประดิษฐานบนดอยภูเพียงแช่แห้งแห่งนี้ นับว่างานวันนี้เป็นงานอันสำคัญ มีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดน่าน ส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน ได้เข้าร่วมในพิธีจากนี้ไปจะมีการบูรณะ การก่อสร้างอีกหลายขั้นตอนจะได้เจริญพรให้ทุกท่านได้ทราบต่อไป
จากพงศาวดารเมืองน่าน เล่าว่า ในสมัยเจ้าพระยาครานเมือง(การเมือง) ครองเมืองน่านอยู่ ได้มีพระยาโสปัตตกันทิ เจ้าเมืองสุโขทัย ได้เชิญพระยาการเมือง ไปสร้างวัดหลวงอุทัยถึงสุโขทัย ซึ่งพระยาการเมืองก็ไปช่วย จนเสร็จสมบูรณ์ ด้วยความดีความชอบ ที่พระยาการเมือง ได้ช่วยพระยาโสปัตกันทิ สร้างวัดหลวงอุทัย ก่อนจะกลับเมืองน่าน พระยาโสปัตกันทิ ได้มอบพระธาตุเจ้า 7 องค์ เพื่อตอบแทนที่พระยาการเมือง ได้มาสร้างคุณงามความดีให้แก่สุโขทัย วรรณพระธาตุเจ้า 7 องค์นั้น คล้ายเมล็ดพรรณผักกาด มีวรรณดังแก้ว 3 องค์ วรรณดังมุก
2 องค์ วรรณะทองเท่าเมล็ดงาดำ 2 องค์ พร้อมพระพิมพ์ทองคำ 20 องค์ พระพิมพ์เงิน 20 องค์ พระยาการเมือง
เมื่อได้ของวิเศษด้วยความชื่นชมโสมนัสแล้ว ก็นำกลับมาแสดงแก่มหาเถรเจ้า ที่เมืองปัว ด้วยความชื่นชมโสมนัส
จึงถามพระมหาเถรเจ้าว่า ควรเอาประจุธาตุนี้ไว้ที่ใด เมื่อพระมหาเถรเจ้าพิจารณาดูที่ควรประจุธาตุนั้นแล้ว ก็กล่าวว่า “ควรเอาไปประจุไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง ตรงที่ระหว่างกลางแม่น้ำเตี๋ยน และแม่น้ำลิง จึงจะเห็นสมควร เพราะภายภาคหน้า แผ่นดินนี้จะเป็นผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นแผ่นดินที่เจริญสืบไป

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น