(มีคลิป) จ.ตาก อ.พบพระ เกษตรกรปลูกผักพืชไร่ขาดทุน หันมาปลูกสวนดอกไม้ ส่งเสริมการท่องเที่ยว 1 พ.ย. เปิดให้ชมพร้อมบริการเต็นท์พัก

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน พื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทำการเกษตร เกษตรกรนิยมปลูกผักปลูกพืชไร่ชนิดต่างๆ ส่งตลาดทั่วประเทศ เช่นตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท หล่มสักเพชรบูรณ์ จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี นับว่า อ.พบพระ เปรียบเสมือนครัวของโลก จากที่เกษตรกรปลูกผักนานาชนิดก็ประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูง ปุ๋ยและยารวมทั้งเมล็ดพันธุ์พืชผักราคาสูง รวมทั้งค่าแรงงานสูงมากขึ้น แรงงานหายาก ยังประสบปัญหาสภาพดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงไปมากอีกด้วย

วันนี้เกษตรกรบางรายที่มีอาชีพปลูกพืชผักและทำไร่ข้าวโพดได้หันมาทำสวน เช่น สวนอะโวคาโด สวนทุเรียน จนขึ้นชื่อมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเดินทางชมสวนอะโวคาโด ชมสวนทุเรียน และมีน้ำแร่ด้วย นักท่องเที่ยวเริ่มขึ้นมาเที่ยว อ.พบพระจำนวนมากขึ้น ทำให้เกษตรกรหลายครอบครัวเล็งเห็นอาชีพใหม่ด้านการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตการปลูกผักปลูกพืชไร่และไม้ดอกของพี่น้องชาว อ.พบพระ

ตัวอย่างเกษตรกร บ้านป่าคาใหม่ หมู่ที่ 6 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ หันมาปลูกดอกไม้เป็นที่แหล่งท่องเที่ยว คือ นางสาวเย็นจิต ชมพูคีรี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 6 ต.คีรีราษฎร์ เจ้าของไรหนึ่งตะวันพันดาว กล่าวว่า ตนและสามีมีอาชีพทำไร่ปลูกผัก ปลูกมาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นพริก กะหล่ำปลี ข้าวโพด มันฝรั่ง ผักกาดขาวปลีลุ้ย ปลูกดอกดาวเรืองขาย ซึ่งตนประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ประกอบกับ ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ต้นทุนการผลิตปุ๋ยยาราคาสูงขึ้น

ตอนนี้หยุดการปลูกผักพืชไร่ไว้ก่อน หันมาปลูกดอกเพื่อการท่องเที่ยว มีดอกผักเสี้ยนฝรั่ง ดอกคอสมอส ดอกทานตะวัน และดอกอื่นๆรวม 5 ไร่ ในพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 50 ไร่ และยังกันที่ไว้เลี้ยงวัว 10 ตัว เพื่อนำมูลวัวเอาไปทำปุ๋ยหมักเอาไว้บำรุงดอกไม้ แบ่งที่ดินทำนาปลูกข้าว 5 ไร่ และขุดสระเลี้ยงปลาอีกด้วย และปรับที่ดินเพื่อบริการให้เป็นลานกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน

ส่วนดอกไม้ ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปแล้วเก็บค่าบริการ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเที่ยวฟรี ส่วนลานกางเต็นท์ คิดค่าบริการในการให้ตั้งเต็นท์ ในราคา 250 บาทต่อ 1 หลัง ค่าเช่าเต็นท์ 1 หลัง 500 บาทมีไว้ให้กับนักท่องเที่ยวเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ช่วงนี้บ้านป่าคาใหม่ เข้าฤดูหนาวอากาศจะเย็นสบาย อยู่บนดอยสูง ช่วงเวลากลางคืนเดือนหงาย มองเห็นท้องฟ้าดาวระยิบระยับ

ส่วนเส้นทางที่จะเข้าไปชมสวนดอก ไร่หนึ่งตะวันพันดาว เข้าได้ 2 เส้นทาง ถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง เส้นทางแยก (กม.42) ทางเข้าที่ผ่านบ้านชิบาโบ ผ่านบ้านใหม่ดินแดง ผ่านบ้านป่าหวาย ทางเข้าสวนจะอยู่ด้านซ้ายมือก่อนถึงหมู่บ้านปากกาใหม่ ประมาณ 500 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร

และอีก 1 เส้นทาง เข้าตรงกม 48 บ้านร่มเกล้าสหมิตร (บ้าน48) ผ่านบ้านป่าคาเก่า ผ่านบ้านห้วยไผ่ ผ่านทางเข้าหมู่บ้านป่าคาใหม่ ผ่านโรงเรียนบ้านป่าคาใหม่ไปประมาณ 500 เมตร ถึงทางเข้าไร่ ด้านขวามือ เข้าไปอีก 1 กม. ถึงไร่หนึ่งตะวันพันดาว โดยจะเปิดให้กับนักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป โดยมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 นักท่องเที่ยว ต้องสวมใส่แมส ทางไร่ หนึ่งตะวันพันดาวจำเป็นต้องวัดอุณหภูมิของร่างกายของนักท่องเที่ยวก่อนที่จะเข้าชม นางสาวเย็นจิต หรือน้องหมวย กล่าว

นางวาน ชมพูคีรี อายุ 65 ปี แม่ของนางสาวเย็นจิต บอกว่า ตนมาอยู่ที่บ้านป่าคาใหม่ 39 ปี มีอาชีพปลูกข้าวโพด ปลูกผัก ปลูกข้าวไว้กิน ทำอะไรก็ขาดทุนตนเองเป็นแม่ ยกที่ให้ลูกปลูกสวนดอกไม้ ส่งเสริมให้ลูกๆทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ชื่อไร่หนึ่งตะวันพันดาว นับใด้ว่าเกษตรกรในพื้นที่ อ.พบพระ ปรับตัวกับสภาพการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ อย่างไรผู้สนใจจะเดินทางไปท่องเที่ยว ติตต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่น้องหมวย หรือ นางสาวเย็นจิต ชมพูคีรี อายุ 33 ปี ได้ที่เบอร์โทร.0857284533 หรือในเพจ ไร่หนึ่งตะวันพันดาวได้

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น