เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 3 พ.ย. 64 ผู้เสียหายจากกรณีถูกฉ้อโกงจำนวนประมาณ 10 ราย รวมตัวนำหลักฐานการสนทนาและสลิปการโอนเงินเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีกับสาวแสบที่ชักชวนร่วมลงทุน ก่อนเชิดเงินหนีล่องหนมานานกว่าครึ่งปี สูญเงินรวมกันนับ 10 ล้านบาท คาดมีผู้สมรู้ร่วมคิดทำเป็นขบวนการ
นางแดง (นามสมมุติ) เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนถูก น.ส.เดือน (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ชาว กทม. ชักชวนให้นำเงินไปร่วมลงทุน โดยคนชวนอ้างว่าเป็นการลงทุนปิดบัตรเครดิตเพื่อรักษาเครดิตบูโรให้กับลูกค้า และให้ผลตอนแทนทุก 5 วัน โดยอ้างว่ามีการแยกทำงานเป็นสายงานตามโซนจังหวัด มีทั้ง จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ และหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ก้าวก่ายกัน เพราะแต่ละจังหวัดให้ผลตอบแทนไม่เท่ากัน ตนเห็นว่ารู้จักกันเป็นการส่วนตัวจึงไว้วางใจนำเงินไปลงทุนด้วย ส่วนตัวลงทุนไปกว่า 6 ล้านบาท ซึ่งในระยะแรกก็ได้ผลตอบแทนจริง แต่ในระยะหลังก็เงียบหายไป ไม่สามารถติดต่อได้ โดยสายงานเชียงใหม่ขาดการติดต่อมานานกว่า 6 เดือนมาแล้ว และสายงานเชียงรายก็เงียบหายมากว่า 3 เดือน ตอนแรกก็ยังไม่รู้สึกเอะใจ แต่พอมีหลายคนติดต่อคนชักชวนไม่ได้ ก็เลยเริ่มพูดคุยสอบถามกัน จนแน่ใจแล้วว่าถูกหลอก รวมความเสียหายเฉพาะกลุ่มที่ติดต่อกันได้ประมาณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จึงนัดรวมตัวกันมาเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงสาวคนดังกล่าว
ด้าน น.ส.ขาว (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนถูกชักชวนร่วมลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยอ้างว่านำเงินไปซื้อที่ดินทำอสังหาเพื่อขายเก็งกำไรแล้วนำเงินมาแย่งกัน โดยมีการโอนเงินไปหลายรอบตามที่หญิงคนดังกล่าวแจ้งมาว่าแต่ละรอบจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ เราก็จัดการโอนเข้าไปตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งตนได้ลงทุนไปเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท
ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า พฤติการณ์การฉ้อโกงในครั้งนี้จะมีการเข้ามาตีสนิทผู้เสียหายผ่านคนรู้จักเพื่อสร้างสายสัมพันธ์ ก่อนจะชักชวนร่วมลงทุน โดยแต่ละรายก็จะอ้างรายละเอียดการลงทุนไม่เหมือนกัน และอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้นๆ โดยเมื่อมีคนสนใจก็จะให้ทำเป็นสัญญาเงินกู้ เพื่อให้ผู้ลงทุนไว้วางใจ ในระยะแรกๆก็จะได้รับผลตอบตามที่กล่าวอ้างจริง แต่พอได้ระยะหนึ่งก็จะไม่สามารถติดต่อได้ โดยในครั้งนี้ทางกลุ่มผู้เสียหายได้วางแผนนัดสาวแสบมาพบ หลักจากล่องหนมานานนับครึ่งปี จึงนำตัวมาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดี ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ จะให้ตัวแทนผู้เสียหายที่อยู่ในพื้นที่บ้านดู่แจ้งความดำเนินคดีไว้ก่อน และจะเรียกผู้เสียหายคนอื่นมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมภายหลัง ก่อนจะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมดส่งไปที่ ภ.จว.เชียงราย เพราะจะมีคณะทำงานในเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะ
ร่วมแสดงความคิดเห็น