(มีคลิป) สมัครงานสูญเงิน 6 แสนกว่าบาท! หอบหลักฐานร้องสื่อ ถูกหลอกให้โอนเงินลงทุนหลายรอบ ก่อนถูกเชิดเงินหมดเกลี้ยง

สมัครงานสูญเงิน 6 แสนกว่าบาท!!! สาวไม่ทันกลโกงหอบหลักฐานร้องสือ ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างใช้แอพขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง ลวงทำภารกิจให้โอนเงินลงทุนหลายรอบ ก่อนถูกเชิดเงินเก็บทั้งชีวิตหมดเกลี้ยง ล่าสุดแจ้งความ ตร.แต่คดีไม่คืบ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (6 พ.ย. 64) น.ส.ปภัสสร อายุ 37 ปี ชาว อ.แม่สลอง จ.เชียงราย พร้อมด้วย นายอนุวัฒน์ อายุ 30 ปี น้องชาย ได้นำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว กรณีถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงให้สมัครงานผ่านแอพพลิเคชันในมือถือ แล้วแอบอ้างใช้ชื่อบริษัทขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังแห่งหนึ่งให้ทางเจ้าตัวทำการโฆษณาสินค้าให้ โดยให้ทำการโอนเงินในการทำภารกิจแต่ละครั้ง จากครั้งแรกที่หลอกให้โอนเงิน 100 บาท และเจ้าตัวเห็นว่าได้ผลตอบแทนจริง จึงหลงเชื่อและโอนเงินไปอีกจากหลักร้อยกระทั่งกลานเป็นเงินหลักพันบาท และหลักหมื่นบาท ซึ่งผู้เสียหายหลบเชื่อโอนเงินไป เพราะหวังว่าจะได้เงินตอบแทนจากการทำภารกิจ แต่ต่อมากลับไม่ได้เงินคืน และถูกหลอกให้โอนเงินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจ้าตัวสูญเสียเงินเก็บไปรยมทั้งสิ้น 642,198 บาท ก่อนจะนำเรื่องราวและหลักฐานเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.สันทราย เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา แต่พบว่าคดีไม่คืบหน้า จึงตัดสินใจนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นเข้าร้องเรียนกับทางผู้สื่อข่าวในวันนี้

โดยทาง น.ส.ปภัสสร ผู้เสียหายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนได้กดเข้าไปในแอพพลิเคชันในมือถือ แอพฯ หนึ่งชื่อแอพฯ ว่า “Part time-2021” ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันที่กดเข้าไปแล้วจะให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ตนเห็นดังนั้นจึงลองกรอกข้อมูลสมัครดู ต่อมาเมื่อกรอกข้อมูลการสมัครเสร็จ แอพฯ ดังกล่าวได้ให้ตนแอดไลน์ของบุคคลเข้าไป จากนั้นก็มีคนที่แอดไลน์นั้นมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน โดยระบุว่า “งานดังกล่าวคือ การกดไลค์/กดแชร์ เพิ่มยอดเข้าชมและคอมเม้นสินค้า เพื่อรับผลตอบแทนค่าคอมมิตชั่น 20 เปอร์เซ็นต์” จากนั้นก็เสนอกับตนว่า จะต้องมีการจ่ายเงินค่าทำกิจกรรมจำนวน 100 บาท ตนเกิดความสนใจจึงได้ลองสมัครและโอนเงินไป โดนครั้งแรกที่โอนเงินไป 100 บาท จากนั้นทางบุคคลดังกล่าวก็ได้ให้ตนกดเข้าไปในแอพพลิเคชันของบริษัทขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง แล้วบอกกับตนว่าให้กดไลค์และแชร์สินค้าดังกล่าว เมื่อตนทำตามแล้วก็ได้แจ้งให้กับบุคคลดังกล่าว จากนั้นตนก็ได้ค่าตอนแทนจริง โดยได้เงิน 150 บาท ซึ่งเป็นเงินที่โอนไปครั้งแรก 100 บาท และค่าตอมมิตชั่น 50 บาท

ต่อมาทางฝ่ายบุคคลดังกล่าวก็ได้เสนองานให้ตนทำอีก ในลักษณะดังกล่าว โดยการส่งคิวอาร์โค้ดให้สแกน แต่รอบนี้ได้ให้ตนโอนเงินไปในจำนวน 1,500 บาท ตนก็ทำตามที่แจ้งมา และก็ได้ค่าตอบแทนมาในจำนวนเงิน 1,800 บาท ซึ่งตนเห็นว่าได้เงินจริง จึงหลงเชื่อ และได้ทำตามข้อเสนอ โดยในครั้งที่สามตนก็ได้ทำการโอนเงินไปอีกจำนวน 3,000 บาท และก็ได้เงินตอบแทนคืนมาจำนวน 3,600 บาท จนกระทั่งในครั้งที่สี่ ตนได้โอนเงินไป 5,000 บาท ตามที่มีการเสนอมา แต่ปรากฎว่าอีกฝ่ายไม่โอนเงินคืนกลับมา ตนจึงได้สอบถามกลับไป แต่อีกฝ่ายกลับอ้างว่าเกิดข้อผิดพลาดและขอให้โอนเงินให้อีก 15,000 บาท ด้วยความที่ตนเกรงจะไม่ได้เงินยอดก่อนหน้านี้คืนจึงได้โอนไปให้ แต่หลังจากนั้นอีกฝ่ายกลับให้ตนติดต่อกับบุคลลในไลน์อีกคน ซึ่งหลังจากแอดไลน์ไปก็ได้พูดคุยกับบุคคลดังกล่าว และทางฝั่งนั้นก็ยืนยันว่าจะได้เงินคืนแน่นอนแต่ต้องปฏิบัติตามเงิ่อนไข ตนก็ทำตาม โดยโอนเงินไปตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.64 จนกระทั่งถึงวันที่ 3 พ.ย. 64

นอกจากนี้หลังจากที่ตนโอนเงินไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ทางฝั่งนั้นยังได้ดึงตนเข้ากลุ่มไลน์ที่มีคนทำงานในลักษณะดังกล่าวอีก 4 คน และได้ขอให้ตนทำงานในลักษณะเดิม แต่มีภารกิจต่อไปเรื่อยๆ โดยจะมีเงินในการลงทุนทำภารกิจแต่ละครั้งตามที่แจ้งมา ซึ่งครั้งหลังๆ ภารกิจแต่ละครั้งจะเป็นให้โอนเงินหลักหมื่นบาทขึ้นไป แต่เมื่อโอนไปทำภารกิจเสร็จแล้วก็พบว่าเงินที่ลงทุนไปนั้นไม่สามารถถอนออกมาได้ ประกอบกับตนอยากได้เงินที่โอนไปทั้งหมดก่อนหน้านี้คืน จึงหลงเชื่อโอนเงินไปทำภารกิจอื่นอีกเรื่อยๆ พร้อมทั้งพูดจาหว่านล้อมให้ตนโอนเงินไป ตนก็หลงเชื่อจึงโอนเงินไปให้กระทั่งสุดท้ายเงินเก็บในบัญชีที่มีอยู่ก็หมด ซึ่งในขณะนั้นตนก็กลัวว่าจะถูกลวงหลอกเช่นกัน แต่ก็มีบุคคลในไลน์กลุ่มนั้นออกมายืนยันว่าจะได้เงินคืนอย่างแน่นอน ซึ่งบางรายอ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้ทำภารกิจเช่นเดียวกับตน และก็มาบืนยันว่าจะได้เงินคืนอย่างแน่นอน แต่หลังจากนั้นตนก็ยังไม่ได้เงินที่โอนไปคืนแต่อย่างใด และมียอดรวมทั้งหมด 642,198.49 บาท จนกระทั่งตนต้องตัดสินใจนำหลักฐานเข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทรายเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าและเงินก็ยังคงไม่ได้คืนแต่อย่างใด

ขณะที่ทางด้าน นายอนุวัฒน์ น้องชายของผู้เสียหาย บอกเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมาทราบกีบพี่สาวภายหลังจากที่พี่สาวได้โอนเงินไปแล้ว ตนก็รู้สึกตกใจมาก และในวันที่ 3 พ.ย. 64 ตนกับพี่สาวก็ได้พากันไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันทราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับเรื่องไว้ และหลังจากทางตนกับพี่สาวได้ให้ข้อมูลเอกสาร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นัดให้ปากคำเพิ่มเติม ในวันที่ 11 พ.ย. 64 แต่ต่อมาวันที่ 4 พ.ย. 64 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรมาหา โดยบอกว่า ข้อมูลที่ได้โอนเงินไปนั้นเป็นเบอร์พร้อมเพย์ ซึ่ง ต้นทาง-ปลายทาง ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นธนาคารอะไร และให้ลองติดตามดูว่าชื่อที่ได้โอนไปนั้นเป็นธนาคารอะไร ซึ่งตนก็ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว ซึ่งตนเกรงว่าคดีจะล่าช้าจึงได้ขอความช่วยเหลือกับทางสื่ออีกทางหนึ่ง พร้อมทั้งอยากฝากเตือนกับประชาชนและสังคมด้วยว่า ให้กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นอุทาหรณ์และเป็นตัวอย่างด้วยว่า การทำงานและได้เงินง่ายๆ ในลักษณะเช่นนี้ไม่มีจริง และอยากให้ทุกคนมีสติ อย่าหลงเชื่อจนตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพในลักษณะนี้

น.ส.ปภัสสร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยทำอาชีพหมอนวด ซึ่งเงินที่สูญเสียไปนั้นก็เป็นเงินที่หามาทั้งชีวิตกว่า 10 ปี พอตกงานช่วงโควิด ก็ออกมาขับไลน์แมน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะเงินที่เก็บมาถูกหลอกไปทั้งหมดจนตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลยเพียงแค่ไม่กี่วัน นอกจากนี้แล้วเงินบางส่วนที่ถูกหลอกไปยังเป็นเงินของมารดาที่เก็บไว้เพื่อทำศพเมื่อล่วงลับไปแล้ว แต่ก็ถูกหลอกไปและตนก็ยังไม่กล้าบอกกับมารดา เพราะกลัวว่าแม่จะตกใจ ตนจึงอยากขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือเร่งรัดคดีที่เกิดขึ้น เพราะเกรงว่าหากล่าช้า ทางกลุ่มมิจฉาชีพชีพดังกล่าวจะไหวตัวทันและหลบหนีไป และตนก็อยากได้เงินที่สูญเสียไปคืน รวมทั้งตนคาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายเกี่ยวกับคดีนี้อยู่อีกจำนวนมาก แต่อาจจะไม่เสียหายมากเท่าของตน จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น