วันที่ 9 พ.ย. 2564 มีรายงานว่า ได้เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกลากตู้คอนเทนเนอร์ ขับตาม GPS โดยไม่ชำนาญเส้นทางพาขึ้นเขาโค้งอันตรายที่ห้ามรถบรรทุกใหญ่ขึ้น จนเกิดอุบัติเหตุตกเขารถขวางถนน เส้นทางหางดง-สะเมิง บริเวณ “โค้ง 7 พับ” ย้ำเตือนขับรถบรรทุกขึ้นเขาสูงต้องสำรวจเส้นทางและมีความชำนาญห้ามเชื่อ GPS เป็นหลัก เพราะบางเส้นทางไปได้เฉพาะรถเล็กเท่านั้น
โดยภาพจาก กลุ่มงานจราจรตำรวจภูธ เชียงใหม่ได้รายงานมาว่า ช่วงเมื่อกลางดึกวันที่ 8 พ.ย. 2564 ผ่านมา (ประมาณ 20.00 น.) ทางศูนย์กู้ภัยตำรวจทางหลวง จังหวัดเชียงใหม่ ได้แจ้งว่าได้เกิดอุบัติเหตุ รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ตกไหล่ทาง บริเวณถนนเชียงใหม่-สะเมิง บริเวณโค้ง 7 พับ บ้านแม่ขนิลเหนือ ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า จุดที่เกิดเหตุเรียกว่า “โค้ง 7 พับ” ตามชื่อที่ชาวบ้านตั้งเนื่องจากเป็นโค้งลาดชันสูงและมีโค้งหักศอกจำนวน 7 โค้งต่อเนื่องด้วยกันชาวบ้านจึงเรียกว่าโค้ง 7 พับ และเส้นทางนี้จะห้ามนำรถบรรทุกใหญ่ผ่านเด็ดขาดเนื่องจากเป็นอันตรายและเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้งจนเป็นที่ทราบดีของชาวเชียงใหม่ และผู้ที่ใช้เส้นทางสายเชียงใหม่-หางดง-สะเมิง หรือเส้นทางหลวงชนบทหมายเลข 1269 ว่าเป็นเส้นทางปราบเซียน
ที่เกิดเหตุพบ สภาพรถบรรทุกที่ลากตู้ตอนเทนเนอร์เปล่า หัวลากตกข้างทางตัวคอนเทนเนอร์ขวางถนนอยู่ รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาเส้นทางนี้ได้
โดย นายเกรียงไกร (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี คนขับรถบรรทุกให้การว่า จนเองเดินทางมาจากทางอำเภอแม่ริม และมีนัดลูกค้าที่สี่แยกสะเมิง ซึ่งความจริงอยู่ในเขตอำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ สามารถใช้เส้นทางผ่านตัวเมืองหรือเส้นทางเลียบคลองชลประทานมาได้อย่างสะดวก แต่ตนเองเข้าใจไปว่าแยกสะเมิงอยู่ในพื้นที่อำเภอสะเมิง จึงได้ตั้งระบบ GPS นำทางเพื่อไปยังตัวอำเภอสะเมิง โดยไม่ทราบว่าเส้นทางไปอำเภอสะเมิงนั้นเป็นเส้นทางเล็กที่มีความคดเคี้ยวและลาดชัน และห้ามรถบรรทุกใหญ่ใช้เส้นทางนี้ ประกอบกับในช่วงเดินทางเวลาประมาณ 18-19.00 น. นั้นเริ่มมืดเล้วก็ตัดสินใจเดินทางตาม GPS จนมาถึงจุดที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวยอมรับว่าขับรถมากว่า 30 ปีเพิ่งมาเจอเส้นทางที่โหดแบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต
ซึ่งทางบริษัทเจ้าของรถบรรทุกก็ได้นำหัวลากมาพยายามกู็รถขึ้น โดยต้องทำการปิดเส้นทางสายหางดง-สะเมิงเนื่องจากรถไม่สามารถผ่านไปได้ ต้องอ้อมไปใช้เส้นทางสาย แม่ริม-แม่สา-สะเมิง ที่อ้อมไปไกลกว่า 40 กิโลเมตรแทน
ล่าสุดมีรายงานว่าได้เคลื่อนยย้านรถที่ตกเขาออกจากเส้นทางได้แล้วเช้านี้สามารถเปิดใช้เส้นทางได้เป็นปกติแล้วทางด้านกลุ่มงาจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ฝากย้ำประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ที่ใช้เส้นทางภาคเหนือ ว่าหากต้องใช้รถบบช่วยนำทาง หรือ GPS นำทางก็ต้องมั่นใจว่าพาไปถูกเส้นทางปลอดภัยหรือไม่ ที่สำคัญต้องตรวจสอบว่าเส้นทางดังกล่าวมีสภาพที่เหมาะกับรถประเภทไหนด้วย และคนขับเองก็ต้องชำนาญการขับขี่เส้นทางป่าเขาที่มีความคดเคี้ยวลาดชันของภาคเหนือ ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์ และความชำนาญเป็นพิเศษในบางเส้นทาง หากไม่แน่ใจควรสอบถามข้อมูลจากทางจราจร หรือทางหลวงก่อนเดินทางทุกครั้ง
ร่วมแสดงความคิดเห็น