ใกล้หน้าหนาวทีไร จุดหมายที่หลายคนปักหมุดกันรัก็ต้องเป็นภาคเหนือนี่ละ และช่วงโควิดแบบนี้ การขับรถเที่ยวเองคงจะสบายใจสุด เพราะเที่ยวได้ตามใจแถมยังไม่ต้องไปแออัดกับผู้คนมากมายด้วยจ้า วันนี้เลยอยากชวนไปส่องเส้นทางท่องเที่ยวเชียงใหม่ – ปายกันดูน้า แล้วจะเที่ยวให้ประหยัดก็ต้องไปจัดตั๋วเครื่องบินกับ Traveloka เพราะราคาตั๋วเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจสุดๆ เชียวละ บินไปเชียงใหม่ช่วงนี้ ต้องมีใบรับรองการตรวจโควิดไม่เกิน 72 ชั่วโมงหรือใบรับรองฉีดวัคซีนครบโดสด้วยน้า ไปถึงแล้วก็โหลดแอพ CM-Chana ไว้ด้วยจ้ะ แค่นี้ก็เที่ยวได้แบบชิลล์ๆ แล้วละ อ่ะ … พร้อมแล้วไปกันเลย!

 

จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่กับ Traveloka https://www.traveloka.com/th–th/flight/to/Chiang–Mai.CNX

 

ทางไปจองรถเช่าเชียงใหม่ หรือเช่ารถเชียงใหม่กับ Traveloka

https://www.traveloka.com/th–th/car–rental/city/chiang–mai

 

แพลนขับรถเที่ยวเชียงใหม่ – ปาย ฉบับง่ายมาก

จากสนามบิน เรามุ่งไปเช็คอินกันที่ วัดอุโมงค์ เป็นแห่งแรก เพราะอยู่ใกล้ เดินทางง่าย แถมยังได้ไหว้พระประเดิมทริปกันเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยด้วยนะ วัดนี้มีมุมสวยๆ ให้เดินดูหรือแวะถ่ายรูปกันได้หลายจุดเลยละ ตัววัดร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศสงบสบาย เดินเล่นยืดเส้นยืดสายสูดอากาศสดชื่นกันก่อนเดินทางต่อซักหน่อยนะ จะได้ไปต่อแบบไม่ล้าเกินไป

ขับรถชิลล์ๆ ต่อไปอีก 20 กว่านาที ก็จะถึงอีกหนึ่งพิกัดที่คนชอบถ่ายรูปเช็คอินน่าจะถูกใจ เพราะที่ ห้วยตึงเฒ่า แห่งนี้ มีทั้งวิวสวยๆ ของทุ่งนากว้าง ล้อมรอบด้วยภูเขาแทบจะทุกด้าน ที่สำคัญคือมีไฮไลท์เจ๋งๆ อย่างหุ่นฟางยักษ์ซึ่งสร้างเป็นรูปร่างสารพัดสัตว์ที่บอกเลยว่าถ้าเห็นช่วงสลัวๆ ก็ต้องคิดว่าของจริงแน่ๆ จ้า ไม่ว่าจะเป็นแก๊งครอบครัวคิงคอง แมว แกะ แถมยังมีกังหันลมเก๋ๆ ให้แวะแชะรูปกันด้วยน้า ไม่ไกลกันยังมีอ่างเก็บน้ำวิวสวยให้ไปชมไปชิลล์กันด้วยจ้ะ บอกเลยว่าดี

จุดหมายต่อไปที่เราจะแวะกันต่อ ก็คือที่ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ซึ่งขับรถไปอีกราวๆ ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นจ้า นี่คือพิกัดที่คนรักไม้ดอกไม้ใบต้องแวะมานะ เพราะเค้ามีหลากหลายพันธุ์ไม้จัดแสดงไว้ให้ดูกันแบบจุกๆ เลยละ ไม่ว่าจะเป็นในเรือนกระจกหรือที่ปลูกแบบเอ๊าท์ดอร์ให้ดูเหมือนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แล้วอย่าพลาดการไปเดินเล่นชมวิวมุมสูงบนสะพานลอยฟ้าความยาวกว่า 400 เมตรเชียวนะ รับประกันว่าสายเขียวทั้งหลายต้องถูกใจชัวร์

ขับรถต่อมาอีกแค่เกือบๆ 20 นาทีเท่านั้น เราก็จะได้มาเช็คอินกันที่ ม่อนแจ่ม แล้วละ ที่นี่นับเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คหลักของเชียงใหม่ที่ใครมาก็ต้องแวะเช็คอินกัน เพราะการเดินทางที่สะดวกสบาย แถมยังมีวิวสวยๆ ให้ดูกันหลายจุดเลยนะ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แหล่งช้อปปิ้ง ฟาร์มสตอร์วเบอร์รี่ ที่ม่อนแจ่มก็มีครบจ้า ใครชอบความมันขอแนะนำให้ลองจัดฟอร์มูล่าม้งกันซักแม็ทช์นะ รับรองว่าหายง่วงเลย

พิกัดสุดท้ายในวันแรกของทริปนี้ เราขอแวะมาเช็คอินพร้อมแสงเย็นสวยๆ กันที่ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย สะพานเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โน่นเลยจ้า โดยทหารญี่ปุ่นสร้างสะพานนี้ขึ้นเพื่อใช้ในการลำเลียงเสบียงและอาวุธข้ามไปฝั่งพม่า เดิมทีนั้นสร้างด้วยไม้แต่ในภายหลังโดนเผาทำลายไป จึงมีการนำเหล็กจากสะพานนวรัฐในเชียงใหม่มาสร้างเป็นสะพานนี้แทน ทุกวันนี้ที่นี่จึงเปรียบเป็นแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอปายที่ใครมาก็ต้องแวะเช็คอินกันหน่อยละ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงปายนะเอ้า

เช้าวันต่อมา เราออกสตาร์ทจากปายกันตั้งแต่เช้ามืดเลยละ เพราะอยากมาให้ทันดูความสวยของทะเลหมอกที่ บ้านจ่าโบ่ ระยะทางก็ประมาณ 60 กิโลเมตรนะ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังกันประมาณนึงเพราะเป็นทางโค้งเลาะภูเขาซะเยอะเชียวละ แต่รับรองเลยว่าถ้ามาทันทะเลหมอกตอนเช้าคือไม่มีคำว่าผิดหวังเลยจ้า ยิ่งถ้าจะให้ฟินก็ต้องแวะมากินก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ร้านก๋วยเตี๋ยววิวหลักล้านซิกเนเจอร์ของหมู่บ้านนี้เค้านั่นละ อิ่มด้วยสวยด้วย รับรองว่าหายเหนื่อยแน่นอน

ขับรถมาอีกสิบกว่านาที ก็จะได้แวะชมความสวยมุมสูงกันที่ จุดชมวิวดอยกิ่วลม ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน นอกจากจะเป็นสถานที่พักตาชมความสวยของธรรมชาติแล้วนะ ที่นี่ยังเหมาะที่จะใช้เป็นจุดแวะพักสำหรับเข้าห้องน้ำ นั่งพักดื่มกาแฟชมวิวดีๆ แถมยังมีร้านรวงสินค้าท้องถิ่นของชาวเขาเผ่าลีซอให้แวะช้อปกันได้ตรงนี้ด้วยนะ เป็นพิกัดสบายๆ ที่ไม่ควรมองข้ามจ้า ลองแวะมาดู

พิกัดต่อมา เชื่อว่าน่าจะถูกใจสายแอดเวนเจอร์แน่นอนละ เพราะขับรถแค่ครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก็จะได้มามันกันที่ ถ้ำน้ำลอด ซึ่งเป็นถ้ำยอดฮิตของแม่ฮ่องสอนเค้าละ โดยการเที่ยวชมถ้ำนี้ต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำเข้าไปเพื่อความปลอดภัยน้า เริ่มจากการเดินเท้า ต่อด้วยการล่องแพเข้าไปตามลำธารลอดผ่านเข้าไปชมถ้ำย่อยที่อยู่ด้านในกันต่ออีก 3 ถ้ำเลยจ้า บอกเลยว่าต้องเป็นแค่ช่วงเดือนพฤศจิกายน – พฤษภาคมเท่านั้นนะที่จะได้เห็นแบบนี้ มาช่วงอื่นน้ำจะเยอะดูได้แค่ถ้ำเดียวน้า สายลุยอย่าพลาดเลย

แอดเวนเจอร์กันเสร็จสรรพ เราก็กลับเข้าไปชิลล์ในเมืองปายกันอีกที พิกัดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงที่นี่ก็คือ วัดน้ำฮู วัดเล็กๆ ท่ามกลางบรรยากาศสงบสบายและนับเป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในอำเภอปายด้วยนะ วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่ออุ่นเมือง พระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ซึ่งมีความมหัศจรรย์อยู่ตรงที่ด้านในเศียรขององค์พระนั้นเปิดปิดได้ แถมยังมีน้ำขังอยู่ด้านในซึ่งไม่เคยเหือดแห้งเลยด้วยนะ ปักหมุดเลยจ้า สายมูสายบุญต้องหาทำ!

ไหว้พระขอพรกันเรียบร้อย เราก็ขับรถมุ่งหน้าสู่ กองแลน เป็นจุดต่อไป เพื่อปักหลักชมแสงสุดท้ายของวันกันที่นี่ละ เพราะลักษณะภูมิประเทศทำให้หลายคนขนานนามที่นี่ว่าเป็น ปายแคนยอน เลยนะ ด้วยพื้นที่กว้างกว่า 5 ไร่ รายล้อมด้วยต้นไม้ โดยมีไฮไลท์เป็นเส้นทางเดินแคบๆ ที่เหลือรอดจากการยุบตัวของภูเขาหินบริเวณนี้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติคล้ายๆ กับที่เกิดขึ้นที่แพะเมืองผีนั่นละจ้า มาช่วงเย็นๆ จะได้เห็นวิวเริ่ดๆ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ นะ ปักหมุดจ้า บอกเลยว่ามันดี!

มาปายทั้งที ถ้าพลาดการเดินเล่น ชิม ช้อป ที่ ถนนคนเดินปาย ก็เหมือนว่ายังไปไม่ถึงเลยนะ เพราะนี่คือหนึ่งในถนนคนเดินที่คึกคัก มีชีวิตชีวา มีของใช้ท้องถิ่นน่าซื้อหา และมีของกินหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่เมนูท้องถิ่นของเมืองเหนือไปจนถึงเมนูอินเตอร์กินง่ายอย่างเบอร์เกอร์หรือพิซซ่า ใครมองหาร้านนั่งชิลล์ไว้เม้าท์มอยสบายๆ ก็หาได้ตรงนี้เลยจ้า รับรองว่าจะติดใจ

เช้าวันต่อมา อยากชวนให้ตื่นเช้ากันอีกซักวันนะ จะได้ไปชมวิวสวยๆ ว้าวๆ กันที่ จุดชมวิวหยุ่นไหล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์หลักที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงปายเลยละ บอกเลยว่าความสวยที่จะได้เห็นน่ะคุ้มค่าที่ต้องลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดแน่นอนจ้า เพราะเราจะได้เห็นทะเลหมอกขาวๆ หนาๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ แถมความเก๋ของที่นี่คือการมีน้ำชาและของว่างรองท้องสไตล์จีนยูนนานให้นั่งกินไปเพลินๆ ระหว่างดูวิวอลังการตรงหน้าด้วยนะ ของเค้าดีจริงจ้า ปักหมุดมาเลย

ชมวิวกันจนจุใจ ขอชวนให้ขับรถมาแวะที่ หมู่บ้านสันติชล กันด้วยนะ ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็เหมือนได้ข้ามมิติมาที่เมืองจีนเลยจ้า เพราะที่นี่เป็นหมู่ชาวจีนยูนนานจำลองซึ่งสร้างได้อย่างมีเอกลักษณ์แปลกหูแปลกตา กับบ้านดินหน้าตาน่ารัก ป้อมปราการหินแบบย้อนยุค และมุมถ่ายรูปเก๋ๆ อีกเพียบเลยจ้า แถมเค้ายังมีชุดคอสเพลย์แบบจีนโบราณให้เช่าใส่เดินเล่นแชะรูปเป็นที่ระลึกด้วยนะ ปิดท้ายด้วยการแวะนั่งจิบชาหรือหาอาหารยูนนานเมนูเด็ดๆ อย่างขาหมูหมั่นโถวกินรองท้องกันซะหน่อยล่ะ พูดได้คำเดียวว่าฟิน!

ก่อนออกจากเมืองปาย เราขอปิดท้ายกันอย่างเป็นสิริมงคลด้วยการแวะ วัดพระธาตุแม่เย็น อีกหนึ่งวัดเก่าแก่คู่ปายที่ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งของอำเภอนี้ นอกจากจะได้ไหว้องค์พระใหญ่สีขาวบริสุทธิ์ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่เราต้องเดินขึ้นบันไดไปราวๆ 300 ขั้นแล้วนะ เรายังสามารถมองเห็นวิวแบบ 360 องศากันได้จากตรงนี้ด้วยจ้า ช่วงพระอาทิตย์ตกถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยนะ มาได้มาจ้า เชื่อว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ขับรถมาอีกไม่เกินชั่วโมงนะ เราก็จะมาถึง อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ใครอยากเห็นวิวแบบสุดปังของที่นี่ แนะนำให้มาตอนเช้าน้า เพราะจะได้เห็นแสงเช้าสวยๆ ส่องผ่านทะเลหมอกขาวๆ ท่ามกลางภูเขาเขียวๆ และบรรดาสารพัดดอกไม้ที่อยู่รอบตัวด้วยจ้า อากาศก็เย็นสบาย เดินทางง่ายด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่อยากให้ปักหมุดถ้าผ่านมาเส้นทางนี้เลย

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ คืออีกหนึ่งจุดที่สายเขียวควรต้องแวะมาเช็คอินกัน ด้วยพื้นที่กว้างกว่า 500 ไร่ ถ้าใครจะมาที่นี่อยากแนะนำให้เผื่อเวลาเอาไว้เยอะหน่อยนะ ด้านในแบ่งเป็นหลายโซน ตั้งแต่สวนนานาชาติกว่า 22 ประเทศ เรือนไม้ดอก เรือนกล้วยไม้ ไปจนถึงเรือนปลูกพืชทะเลทราย ไม้ดอก ไม้ผล ที่นี่เค้าก็มีให้แวะชมกันด้วยละ รับรองว่าคนรักไม้ดอกไม้ใบต้องเพลินจริงอะไรจริงจ้ะ ไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน

ปิดท้ายทริปนี้กันด้วยอีกหนึ่งความเป็นสิริมงคลที่ วัดพระธาตุดอยคำ วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองเชียงใหม่มาแล้วกว่า 1,300 ปี ด้านในเจดีย์สีทองอร่ามของที่นี่นั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ให้เราได้แวะมากราบขอพรกัน นอกจากนั้นยังมีองค์พระเจ้าทันใจซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่กว่า 500 ปี ซึ่งหลายคนเชื่อถือศรัทธาในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ว่าขออะไรก็มักจะได้สมหวังกันแบบทันอกทันใจให้เราได้ขอพรปิดท้ายทริปกันด้วยนะ อย่าพลาดจ้า ต้องมาให้ไว

 

เส้นทางขับรถเชียงใหม่ – ปายนั้น เป็นเส้นทางที่มีพิกัดเด็ดๆ ให้แวะเที่ยวกันได้มากมายไปตลอดทางเลยละ ที่เราเอามาฝากกันนี่เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้นนะ ลองเอาไปเป็นไอเดียวางแผนเที่ยวกันได้ตามเวลาที่มีเลยจ้า ที่สำคัญคือควรเช็คพิกัดแต่ละแห่งก่อนไปด้วยน้า ช่วงโควิดแบบนี้ที่เที่ยวหลายแห่งก็สลับกันปิดๆ เปิดๆ อยู่บ่อยๆ นะ ลองอัพเดทกันเรื่อยๆ จ้า จะได้ไม่เสียเวลาไปเก้อไง ไฮซีซั่นของการเที่ยวภาคเหนือมาแล้วน้า อย่าช้าจ้ะ รีบหาที่เที่ยวกันให้ไว!