น่าน เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยว หมอแจงเคยรับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม แต่เชื้อลงปอด

จังหวัดน่าน สถานการณ์การแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ภายในจังหวัด โดยเริ่มจากมีผู้ติดเชื้อจากการขายไก่ทอดที่ตลาดวโรรส กาดหลวงเชียงใหม่ จากนั้นได้กลับมาแพร่เชื้อให้ครอบครัวและกระจายไปยัง 2 หมู่บ้าน และยังเกิดคลัสเตอร์ต่อเนื่องจากคนภายในหมู่บ้านประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และพากันไปลงแขกเกี่ยวข้าว ล่าสุดเช้าวันนี้ยังพบผู้ติดเชื้อที่ยืนยันผลโดยวิธีการตรวจแบบ RT PCR จำนวน 8 ราย รวมผู้ติดเชื้อ 2 หมู่บ้าน จำนวน 100 ราย
โดยวานนี้พบผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 15 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดน่าน อายุ 64 ปี โดยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดน่านโดยรถยนต์ส่วนตัวกับครอบครัวรวม 4 คน มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ที่เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพ เดินทางพร้อมกับครอบครัว รวม 4 คน เพื่อมาท่องเที่ยวในจังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 เวลา 01.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อมาท่องเที่ยวจังหวัดน่าน เมื่อเวลา 10.00 น. ถึงด่านคัดกรองโควิดจังหวัดน่าน ด่านห้วยน้ำอุ่น และได้รับการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ให้ผลเป็นลบ ทั้ง 4 คน แต่เริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ และเหมือนเป็นหวัด และเมื่อเวลา 12.00 น. เดินทางมาไหว้พระที่วัดศรีมงคล (วัดบ้านก๋ง) อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน มีอาการวิงเวียนศีรษะ มีใข้ ไอ และเจ็บคอ จนเวลา 14.00 น. จึงแวะไปรับบริการที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศิลาเพซร อำเภอปัว จังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ศิลาเพชร แนะนำให้ไปรับการตรวจรักษาที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว และเมื่อเวลา 15.00 น. เข้ารับการตรวจรักษาที่แผนกฉุกเฉิน รพร.ปัว ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ให้ผลเป็นบวก จึงทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เพื่อยืนยันระหว่างที่รอผลการตรวจ เข้ารับการสังเกตอาการที่ห้องแยกโรค จนเวลา 16.00 น. ทราบผลการตรวจ พบว่า ติดเชื้อโควิด-19 โรงพยาบาลสมเด็จพยุพราชปัว จึงส่งเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลน่าน  แต่เนื่องจากคนไข้รายดังกล่าวได้รับเชื้อมานานจนเชื้อลงปอด อีกทั้งผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุ และมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ทั้งมีโรคประจำตัวคือโรคความดัน แต่มีประวัติได้รับวัคซีนโควิด 19 ยี่ห้อแอสต้าเซเนก้า ครบ 2 เข็มแล้ว โดยเข้ารับรักษาตัวอยู่ห้อง ICU โควิด ของโรงพยาบาลน่าน จนเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 โดยทางญาติได้ทำการฌาปนกิจที่สุสานรอมเชียงของอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่านแล้ว เมื่อวานนี้ช่วงบ่ายโมง โดยมีเพียงญาติเข้าร่วมงานโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ
ทั้งนี้จากคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดน่าน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อที่ได้รับวัคซีนที่มีอาการโคม่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยโคม่าที่เชื้อลงปอดนอนรักษาตัวอยู่ ในห้อง ICU ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 4 ราย ไม่มีประวัติว่าได้รับวัคซีน
ด้าน นายแพทย์ พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ฝ่ายปฐมภูมิ กล่าวว่า สำหรับข่าวมีผู้ป่วยโควิดที่เสียชีวิตที่จังหวัดน่านและมีประวัติเรื่องของการได้รับวัคซีนแล้วเป็นแอตต้า 2 เข็ม ในเรื่องนี้ต้องเรียนว่าผู้ป่วยเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากกรุงเทพฯ อายุ 64 ปี มีโรคประจำตัว คือ โรคความดันและมีภาวะน้ำหนักเกินด้วยทำให้มีความเสี่ยงกับการที่ติดเชื้อแล้วจะอาการหนักได้
อย่างไรก็ดีในช่วงนี้จริงเรามีผู้ป่วยหนักอยู่ทั้งหมด 5 ราย โดย 5 รายนี้มี 4 รายที่ไม่ฉีดวัคซีนมีเพียงรายเดียวคือรายที่เสียชีวิตที่ฉีดวัคซีนอยู่ ก็แปลว่าในความเป็นจริงแล้วการฉีดวัคซีนป้องกันและลดความเสี่ยงได้ โดยส่วนใหญ่แล้วในข้อมูลของเขตสุขภาพเองก็เหมือนกันว่า 94% ของคนที่เสียชีวิต ไม่ได้ฉีดวัคซีนครับมีเพียง 6% ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อแต่รับวัคซีนแล้ว สรุปว่าการฉีดวัคซีนนั้นจะลดการเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้แต่ไม่ได้ทุกคน แน่นอนว่าในคนที่มีความเสี่ยงสูงและร่างกายอ่อนแออาจจะมีโอกาสเสียชีวิตได้
บทเรียนนี้อาจจะบอกเราว่าในกรณีที่ท่านถึงฉีดวัคซีนแล้วนะครับ แต่หากท่านมีโรคประจำตัวหรือสูงอายุรวมทั้งมีความเสี่ยงหลายอย่าง ทั้งโรคไต โรคหัวใจ โรคปอดต่างๆ ก็ยังจำเป็นจะต้องรักษาระยะห่างทางสังคม ใส่หน้ากาก ล้างมือ และไม่ควรไปสถานที่เสี่ยงเช่น พวกผับบาร์ หรือพื้นที่ที่มีการรวมตัวกันดื่มสุรา หรือที่รวมกลุ่มคนหมู่มาก ควรจะออกสังคมเท่าที่จำเป็น เพื่อความปลอดภัย และไม่เสี่ยงต่อการที่มีอาการหนักถึงขั้นเสียชีวิต

ร่วมแสดงความคิดเห็น