ตรึงราคาเนื้อหมู สกัดไข่ ไก่ พืช ผักพาเหรดขึ้นราคา ผู้บริโภคเดือดร้อน

กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ (เชียงใหม่ ) เปิดเผยว่า ปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเฉลี่ย65-70 บาทต่อกก.โดยเฉพาะอาหารสัตว์ และโรคระบาดในสุกร ทำให้กลุ่มผู้เลี้ยง ปรสานงานไปยัง สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ให้เร่งหารือพาณิชย์ ,ปศุสัตว์ หน่วยงานระดับนโยบายหาทางออกแม้จะพยายามตรึงราคาจำหน่ายหน้าฟาร์มที่ผู้เลี้ยงขายได้เฉลี่ย 67-68 บาท ซึ่งจริงๆแล้วช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วราคาจะขายได้ไม่เกิน 80 บาท ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ราคาหมูอาจจะปรับตัวระยะหนึ่ง แต่ผู้เลี้ยงสุกรอยู่ได้ไม่เดือดร้อน ไม่ใช่ขอความร่วมมือ ตรึงราคาแล้วผู้เลี้ยงทยอยหายไปทีละราย ”


ในขณะที่ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ระบุว่า มีการหารือร่วมกับรมว.พาณิชย์ ถึงปัญหาที่ส่งผลให้ราคาหมูขยับขึ้นช่วงนี้ เป็นราคาที่ส่งสัญญาณถึงกลไกตลาดปกติ ซึ่งทางพาณิชย์ขอให้ช่วยตรึงราคาไปอีก 1 เดือน เพราะหากราคาหมูแพงขึ้น ชาวบ้านจะเดือดร้อน และประเด็นอาหารสัตว์พวกกากถั่วเหลืองที่ราคาขยับไปอยู่ที่19-20 บาท กำลังหาทางแก้ไขเบื้องต้นทราบว่ากระทรวงพาณิชย์ มีการเชิญหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และองค์การคลังสินค้า สมาคมโรงสีข้าว เพื่อเจรจาวัตถุดิบข้าวกะเทาะเปลือก เป็นวัตถุดิบทดแทนกากถั่วเหลือง และกรมการค้าภายใน จะประสานขอความร่วมมือกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ตรึงราคาเนื้อแดง เป็นเวลา 1 เดือน ราคาเฉลี่ย 120 บาท/กก. และเตรียมสินค้าเนื้อสุกรร่วมโครงการรถโมบายพาณิชย์ลดราคา ไปยังพื้นที่ต่างๆด้าน สำนักงานพาณิชย์ จ. ลำพูน ได้ออกติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ในพื้นที่เมืองลำพูนพบว่า ผักและผลไม้ราคาทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ไข่ไก่ ราคายังคงทรงตัว ข้าวสาร ราคาปรับลดลง เนื่องมาจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ด้านเนื้อหมู ราคาทรงตัว (เฉพาะเนื้อแดง กก. 150 บาท) หมูสามชั้น/สันนอก/สันใน มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น (10 บาท/กก.) เช่น สันใน กก. 180 บาท สันนอก กก. 180บาท สามชั้น กก. 180 บาท หมูบด/ซี่โครง กก. 150 บาท เป็นต้น สาเหตุเนื่องจากต้นทุนที่รับจากฟาร์มมีราคาปรับเพิ่มขึ้น


อย่างไรก็ตามจากการสอบถาม ผู้ประกอบการเลี้ยงสุกร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ทราบว่า ต้นทุนการเลี้ยง จะแบกรับพวกอาหารสัตว์กว่าร้อยละ 70 -80 ไม่นับรวมค่าบำรุง ป้องกัน และวัคซีนดูแลสุกรที่ไม่ให้เสี่ยงต่อโรคระบาดเฉลี่ย300-400 บาท/ตัว ราคาหน้าฟาร์มควรจะอยู่ที่80-85 บาท จึงจะคุ้มค่ากับการเลี้ยงหมูขาย
” ตลาดที่ขายจริง จากการควบคุมกลไกตลาดวันนี้ของคณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตสุกร กรณีซื้อลูกสุกรมาเลี้ยงขุน เฉลี่ย ที่ 78-80 บาทต่อกิโลกรัม กรณีผลิตลูกสุกรเอง เฉลี่ย70-72 บาทต่อกิโลกรัมราคาแนะนำสุกรในพื้นที่สุกรขุนหน้าฟาร์มราคาแต่ละภาคแตกต่างกัน ถ้าภาคเหนือก็จะอยู่ที่ 74 บาทลูกสุกร 16 กก.อยู่ที่ 2,500-3 พันบาท การซื้อขายขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ ซึ่งราคาที่ประกาศกันนั้น จะใช้อ้างอิงไม่ได้เลย อยู่ที่ผู้ซื้อที่ค้าขายกัน อิงตลาดท้องถิ่นเป็นหลัก”


ผู้จำหน่ายเนื้อหมู ในตลาดหนองดอก ลำพูนและ ตลาดแม่โจ้ สันทราย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ราคาเนื้อหมูที่ขายในช่วงนี้ยอมรับว่า ขยับขึ้นบ้าง ตามกลไกตลาด ที่ผ่านๆมา ลูกค้าประจำเป็นส่วนใหญ่ที่จะซื้อกัน เพราะทุกวันนี้ มินิมาร์ท ช๊อปร้านขายหมูในห้องแอร์ มีให้เลือกสารพัดประเภทเปิดขายกันแทบจะทุกหมู่บ้าน
” บางยี่ห้อบางฟาร์ม รุกตลาด ขายตามกาดนัดก็มี ทำให้ ผู็ค้าเขียงรายย่อย อยู่ลำบาก ปิดเขียงกันก็เยอะ กังวลว่า หากเนื้อหมูแพง ไล่กวดราคาไข่ไก่ พืชผักที่ขยับราคากันไปก่อนหน้า คงเดือดร้อนกัน เศรษฐกิจแบบนี้ ทำมาหากินลำบาก ข้าวของ สินค้าแพงขึ้น อยู่กันลำบากจริงๆ ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น