อุทาหรณ์ใกล้วันลอยกระทง ประทัดปิงปองระเบิดในมือเด็กชายวัย 12 ขาดกระจุย!

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเด็กชายวัย 12 ปี ชาว อ.เชียงของ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกประทัดระเบิดใส่มือ และถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์

ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อสอบถามไปที่นางแดง (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี ชาวบ้าน ต.ครึ่ง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นย่าของผู้บาดเจ็บ เผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. วันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี หลานชายได้นำเอาระเบิดปิงปองที่ซื้อจากร้านค้าใกล้บ้าน และเก็บไว้นานแล้ว ในช่วงนี้ใกล้เทศกาลลอยกระทง จึงนำเอาประทัดและระเบิดปิงปองที่ซื้อไว้เอามาจุดเล่น โดยชักชวนน้องชายวัย 8 ปี และเพื่อนอีก 1 คน ไปเล่นที่บนสะพานข้ามน้ำอิง พื้นที่บ้านประชาภิวัฒน์ ม.10 ต.ครึ่ง ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมต่อไปบ้านเกี๋ยง ม.6 ต.ห้วยซ้อ ห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร และจังหวะที่นำเอาระเบิดปิงปองมาจุด

โดย ด.ช.เอ ได้ถือระเบิดปิงปองด้วยมือซ้ายและจุดไฟแช็คด้วยมือขวา ได้เกิดระเบิดขึ้นคามือ ทำให้นิ้วมือข้างซ้ายขาดกระจุย สะเก็ดระเบิดได้กระเด็นถูกบริเวณลำคอ ส่วนน้องชายและเพื่อนซึ่งอยู่ใกล้กับ ด.ช.เอ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โชคดีที่มีชาวบ้านที่ผ่านมาที่จุดเกิดเหตุจึงได้แจ้งมาที่ตน ซึ่งตอนนั้นกำลังกลับจากไปทำนา เมื่อทราบข่าวจึงรีบไปที่จุดเกิดเหตุในทันที และชาวบ้านยังได้ช่วยแจ้งประสานไปที่หน่วยกู้ชีพ ทต.ครึ่ง รับตัวนำส่ง รพ.ขุนตาล ก่อนจะถูกส่งตัวมารักษาตัวต่อที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ในที่สุด

นางแดง (นามสมมุติ) เผยอีกว่า ตนอยู่ที่บ้านกับหลานชาย 2 คน คือ ด.ช.เอ และ ด.ช.บี (นามสมมุติ) ส่วนพ่อของเด็กเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนแม่เด็กอยู่ สปป.ลาว จึงดูแลเด็ก 2 คนมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ประทัดที่หลานชายนำมาเล่นทราบว่าซื้อจากร้านค้าแถวๆหมู่บ้าน ซื้อไว้นานแล้ว แต่กำลังเอาออกมาเล่นกัน จนเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น

“ตนอยากฝากไปยังผู้ปกครองที่ดูแลเด็ก ให้เฝ้าระวังการพฤติกรรมการเล่นของเด็กๆ อย่าให้เด็กอยู่ใกล้วัตถุระเบิดหรือของเล่นอันตรายอื่นๆ ผู้ปกครองควรดูแลเอาใจใส่ อย่าให้เด็กๆเล่นคลาดสายตา ไม่เช่นนั้นอาจเกิดกรณีไม่คาดคิดขึ้นเหมือนกรณีหลานชายของตน ส่วนผู้จำหน่ายประทัดหรือวัตถุอันตรายก็ควรใช้ความระมัดระวังในการจำหน่าย อย่าขายของอันตรายให้กับเด็กๆ ขอให้กรณีดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ปกครอง และผู้จำหน่ายใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวอื่นอีกในอนาคต” นางแดง (นามสมมุติ) กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น