ช่วงเย็นวันนี้ (13 พ.ย. 64) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ทำการจับกุมตัว นายจาย (นามสมมุติ) อายุประมาณ 30 ปี ชาวไทใหญ่ พร้อมด้วยของกลาง กล้องถ่ายรูป ยี่ห้อ Nikon รุ่น D5300 ,เสื้อเชิ้ตคอกลมแขนยาวสีคราม ,กางเกงขายาวสีน้ำตาล และถุงผ้าสีขาวที่ไว้ใช้ใส่ของ หลังผู้ต้องหารายนี้ลงมือก่อเหตุขโมยกล้องถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวที่มาถ่ายภาพบริเวณลานประตูท่าแพเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันนี้ ก่อนที่จะเดินหลบหนีไป แต่ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา หลังหลบหนีไปยังพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด พร้อมกับของกลางก่อเหตุ และควบคุมตัวมาดำเนินคดีได้ในที่สุด
โดยทางด้าน พ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้เนื่องมาจากช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (13 พ.ย. 64) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากทางผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว ได้มาถ่ายภาพโคมล้านนาที่ตกแต่งยังบริเวณลานประตูท่าแพ โดยได้ใช้กล่องถ่ายถาพ จากนั้นได้วางกล้องไว้บริเวณที่นั่งใต้ต้นไม้ แล้วได้เปลี่ยนไปใช้กล้องมือถือถ่ายภาพ หลังจากนั้นไม่ถึง 10 นาที ก็มีชายคนร้ายที่ก่อเหตุเดินผ่านมายังจึดที่ผู้เสียหายวางกล้องไว้ เมื่อสบโอกาสเห็นว่าไม่มีคนจึงหยิบเอาทรัพย์สินเป็นกล้องของผู้เสียหายหลบไป
หลังจากนั่นทางคนร้ายผู้ก่อเหตุได้เดินออกจากที่ลานประตูท่าแพ แล้วขึ้นรถกลับมาที่บ้านในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด โดยหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนก็ได้ทำการตรวจสอบหาเบาะแสค้นร้าย และพบว่าที่จุดดังกล่าวเป็นจุดที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด Smart safety zone ที่มีการพัฒนาระบบกล้องวงจรปิด ที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้าย ที่หลังคนร้ายก่อเหตุนั้นสามารถที่จะติดตามจับกุมตัวได้อย่างรวดเร็ว อย่างเช่นคดีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนและจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็วเพียงไม่ถึง 5 ชั่วโมง โดยการแกะรอยจากเทคโนโลยี Smart safety zone จนกระทั่งติดตามจับตัวคนร้ายได้ที่ อ.ดอยสะเก็ด พร้อมกับของกลางที่ก่อเหตุขโมยไป
ขณะเดียวกันจากการสอบสวนทางคนร้ายที่ก่อเหตุ ก็ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง โดยตั้งใจจะนำกล้องที่ขโมยได้นั้นเอาไปขาย แต่ยังไม่ทันได้นำไปขาย ส่วนการก่อเหตุนั้นอาจจะเป็นเพราะเห็นว่าสบโอกาส เพราะกล้องวางทิ้งไว้จึงก่อเหตุ อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาในพื้นมี่ด้วยว่าอย่าวางทรัพย์สินที่มีค่าทิ้งแบบละสายตาเพราะอาจจะถูกกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ก่อเหตุได้ และอยากฝากเตือนมิจฉาชีพด้วยว่าทุกวันนี้มีกล้องวงจรปิดและเทคโนโลยีที่สามารถติดตามตัวได้อย่างรวดเร็วจึงอยากให้คิดให้ดีก่อนจะทำอะไร เพื่อไม่สร้างความเดือดร้อนและเสื่อมเสียชื่อเสียงของจังหวัด
ร่วมแสดงความคิดเห็น