เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแพร่ จำกัด ถนนกาดน้ำทอง ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ มีกลุ่มตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแพร่ กว่า 30 คน นำโดย นางปานทอง ชัยวิรัช สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแพร่ เดินทางมาติดตามสอบถามกรณีที่ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแพร่ ไม่เซนต์อนุมัติให้กู้เงิน ที่ยื่นกู้ไว้แล้วกว่า 400 ราย ซึ่งจากเรื่องดังกล่าวส่งผลให้สมาชิกเดือดหนัก ทั้งที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่แล้ว และบางรายถึงกับจะถูกยึดบ้านอีกด้วย การมาวันนี้มีการยกป้ายโจมตีการทำงานและวางพวงหรีดให้กับผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแพร่
นายสมศักดิ์ พรมไพร แกนนำผู้ประท้วง กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ทาง คณะกรรมการได้มีประกาศสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแพร่ จำกัด ว่าด้วยเกณฑ์การให้กู้เงินประเภทต่างๆเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิก ซึ่งในวันประชุมประจำเดือนมีกรรมการเสนอขอให้ยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์ใหม่ที่ประกาศเมื่อ 24 ตุลาคม 2564 ต่อมากรรรมการฯ ที่เคยลงมติสนับสนุนให้ยกเลิกประกาศเมื่อประชุมประจำเดือนวันที่ 30 ตุลาคม มาพิจารณาแล้วเห็นว่าการยกเลิกประกาศดังกล่าวทำให้ปัญหาของสมาชิกไม่ได้รับการแก้ไขและสมาชิกเสียสิทธิ์ในการกู้เงิน กรรมการที่ลงมติสนับสนุนให้ยกเลิกประกาศสหกรณ์เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม จำนวน 4 ท่าน ได้บันทึกความเห็นแย้งขอกลับมติเดิมของตนเองเป็นไม่เห็นชอบให้ยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์การกู้เงินวันที่ 24 ตุลาคม และมีกรรมการอีก 2 ท่าน ก็ไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์ ทั้งหมดได้บันทึกความเห็นไปยังประธาน
ในการประชุมวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 กรรมการที่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์การกู้เงิน ที่ประกาศเมื่อ 24 ตุลาคม 2564 ขอนำเอาประกาศมาใช้อีกเพื่อแก้ปัญหาที่ค้างอยู่ที่หมดสิ้นไปก่อนสำหรับสมาชิกที่ค้างอยู่
ที่ประชุมที่อภิปรายกันกว้างขวางในที่สุดก็ลงมติ ผลปรากฏว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้นำประกาศหลักเกณฑ์การกู้เงินวันที่ 24 ตุลาคม มาใช้แก้ปัญหาให้สมาชิก 8 เสียง ไม่เห็นชอบ 5 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ประธาน 1 เสียง และได้มอบให้ฝ่ายจัดการไปดำเนินการตามมติที่ประชุม ในวันที่ 11 พฤศจิกายน สมาชิกจึงมาใช้บริการอีกครั้ง แต่ทราบว่ามีการระงับอีกจนกระทั่งถึงวันนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2564 มีกรรมการ 5 คนทำหนังสือไม่เห็นด้วย
ทั้งนี้กรรมการทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยถ้าไม่เห็นด้วยกับมติมีแนวทางปฏิบัติ 2 ทาง ครับ คือ 1. ไม่เห็นด้วยกับมติ 2. กรณีที่เคยเห็นด้วย หรือไม่ออกความเห็นต่อมามีความเห็นแย้งกับที่ตนเองเคยลงมติไปแล้วก็บันทึกแย้งไปยังประธานภายใน 3 วันนับแต่วันที่มีมติไปแล้ว เมื่อผลดำเนินการปรากฏมีความผิดพลาด กรรมการที่เห็นชอบก็รับผิดชอบไป กรรมการที่ไม่เห็นชอบและที่บันทึกแย้งภายหลังก็ไม่มีส่วนรับผิดชอบครับ เป็นเรื่องปกติของการประชุม
แต่หากไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกรรมการที่เห็นชอบกับไม่เห็นชอบก็ไม่มีอะไรที่ได้เกินใคร เป็นแนวปฏิบัติของคณะกรรมการเกี่ยวกับความรับผิดและไม่ต้องรับผิดตาม พ.ร.บ. สหกรณ์ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม 2562 2563 มาตรา 51 51/2 51/3
นายเสงี่ยม อัมภาราม อดีตผอ.ปจ.แพร่ อดึตประธานสอ.ครูแพร่คนที่15ปี พ.ศ.2532-2535กล่าวว่าเคยเป็นประธานสอ.มาแล้ว 4แห่ง 12 ปีเพิ่งมาเจอที่สอ.ครูแพร่นี่แหละกรรมการมีความขัดแย้งและไม่เคารพมติมีการร้องเรียนกันและไม่ทราบสาเหตุว่าผจก.มีเหตุอะไรที่ไม่ยอมทำตามมติกรรมการ
ทางนางปานทอง ชัยวิรัช กล่าวว่า วันนี้มีสมาชิกกว่า 30 คน ที่เป็นตัวแทนยื่นกู้เงินไว้ แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ จึงมาทวงถามความคืบหน้า แต่ก็ไม่พบผู้จัดการแต่อย่างใด เนื่องจากติดประชุมนอกสถานที่ และจะให้เวลาถึงวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ ถ้ายังไม่มีคำตอบ เตรียมยกระดับ เตรียมยื่นเรื่องต่อ ศูนย์ดำรงธรรม สหกรณ์จังหวัด ปปง. ดีเอสไอ ต่อไป เพราะเหล่าสมาชิกยังมีข้อมูลเชิงลึกอีกมากที่ยังไม่เปิดเผย
ร่วมแสดงความคิดเห็น