การปราบปรามการ ลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ ในพื้นที่ภาคเหนือ

ตามที่ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ได้มีนโยบายปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากร ธรรมชาติและป่าไม้ โดยบูรณาการหน่วยงานที่มีภารกิจและอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้บุกรุก ยึดถือ ครอบครอง ทำลาย หรือด้วยการกระทำใดๆ อันเป็นการทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สภาพป่า โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่นั้น ได้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามในพื้นที่ ดังนี้.-


เหตุการณ์ที่ 1 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองร้อยทหารราบที่ 711 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับเ จ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ทำการตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า บริเวณพื้นที่บ้านแม่สุยะ ตำบลห้วยผา อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผลการดำเนินการพบไม้แดงท่อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ยาว 2 เมตร จำนวน 4 ท่อน ถูกซุกซ่อนปกคลุมด้วยกิ่งไม้อยู่ในป่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง ไม่พบอุปกรณ์ตัดไม้และไม่พบตัวผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดไม้เป็นของกลาง พร้อมทั้งแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ทหารจาก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ทำการตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า บริเวณพื้นที่บ้านแม้วแม่เทย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ผลการดำเนินการพบไม้กระยาเลยท่อน จำนวน 9 ท่อน ถูกซุกซ่อนปกคลุมด้วยกิ่งไม้อยู่ในป่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง ไม่พบอุปกรณ์ตัดไม้และไม่พบตัวผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดไม้เป็นของกลาง พร้อมทั้งแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ ขอความกรุณาได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการปราบปรามและจับกุม อย่างเป็นรูปธรรมตามกฎหมาย อีกทั้งหากพี่น้องประชาชนมีความประสงค์จะส่งข้อมูล การลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ โดยตรง ให้กับ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบ Applications Line ชื่อ “สายตรงแม่ทัพภาคที่ 3” ID Line : ISOC3 เพื่อรับทราบข้อมูลและนำไปสู่การปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย สร้างความมั่นคงให้สังคมไทยสืบไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น