ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 9 จังหวัด ประสานดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่อง

20 พ.ย.64 เวลา 09.25 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 9 จังหวัด แยกเป็น ผลกระทบจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10 – 20 พ.ย. 64 ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ตรัง ภูเก็ต พังงา สตูล และกระบี่ รวม 55 อำเภอ 165 ตำบล 680 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,147 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด (ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สตูล) รวม 3 อำเภอ 5 ตำบล 17 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 805 ครัวเรือน ขณะที่อิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 20 พ.ย. 64 ทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 จังหวัด (อุบลราชธานี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม) รวม 20 อำเภอ 227 ตำบล 1,537 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 88,897 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 35 ราย ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เร่งระบายน้ำและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10 – 20 พ.ย. 64 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ตรัง ภูเก็ต พังงา สตูล และกระบี่ รวม 55 อำเภอ 165 ตำบล 680 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,147 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัfรวม 3 อำเภอ 5 ตำบล 17 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 805 ครัวเรือน ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกพื้นที่ ได้แก่ 1. ประจวบคีรีขันธ์ น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบางสะพาน รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน 2. ชุมพร น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองชุมพร รวม 15 ตำบล 66 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,876 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ระดับน้ำลดลง และ 3. สตูล น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองสตูล รวม 2 ตำบล 7 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 690 ครัวเรือน

ขณะที่อิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 20 พ.ย. 2564 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 จังหวัด (อุบลราชธานี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม) รวม 20 อำเภอ 227 ตำบล 1,537 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 88,897 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 35 ราย โดยภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายแล้วในหลายพื้นที่ ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ดังนี้
1.อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 573 ครัวเรือน

2.สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า รวม 28 ตำบล 267 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,053 ครัวเรือน

3.อ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอป่าโมก รวม 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 801 ครัวเรือน

4.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอลาดบัวหลวง รวม 106 ตำบล 680 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,385 ครัวเรือน

5.ปทุมธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอสามโคก และอำเภอลาดหลุมแก้ว รวม 25 ตำบล 81 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,176 ครัวเรือน

6.นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอดอนตูม รวม 61 ตำบล 475 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครัวเรือน

สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784”

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น