เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2564 นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ จ.ตาก กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ มีพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกพริกในพื้นที่ อ.พบพระ ใด้เข้ามาพบ และร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อน เรื่อง ราคาพริกตกต่ำ ปัญหามีผู้นำเข้าพริกเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ปัญหาราคาปุ๋ย ราคายากำจัดโรคจากพืชที่ราคาแพง ต่อมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ศุลกากร พาณิชย์จังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอพบพระ รวมถึงเกษตรกรพี่เดือดร้อนเข้าร่วมประชุมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ในส่วนของ อ.พบพระ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ร่วมกันตรวจเข้มสกัดกั้นการนำพริกเข้ามาโดยผิดกฎหมาย โดยรวบรวมปัญหาต่างๆนำเสนอผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านไปยังกระทรวงพาณิชย์ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์โดยพาณิชย์จังหวัดได้ประสานและช่วยหาโรงงานผลิตซอส ให้ติดต่อรับซื้อพริกจากเกษตรกรโดยตรง จึงมีผู้มารับซื้อผลผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกพริกดังกล่าวแล้ววันนี้ จากที่ พริก กก.ละ 10-15 บาท ราคาสูงขึ้นเป็น กก.ละ 50-60 บาท
และวันนี้ นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระได้มอบหมายให้ นายพลวัฒน์ อินต๊ะลอ ปลัดอำเภอพบพระ บูรณาการร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก กำนันตำบลช่องแคบ สารวัตรกำนันตำบลคีรีราษฎร์ และลูกจ้างโครงการ U2T ลงพื้นที่ออกตรวจและให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตร (ล้ง) ในพื้นที่ อ.พบพระ คือ 1.ประชาสัมพันธ์แจกสำเนาประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 16 พ.ศ. 2564 เรื่อง การแสดงราคาสินค้าเกษตรให้แก่ผู้ประกอบการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ อ.พบพระ
2.นำตรวจการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อผลผลิตทางการเกษตรของผู้ประกอบการรับซื้อผลิตทางการเกษตรใน อ.พบพระ ตามแผนการตรวจของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก โดยได้นำตรวจการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อผลผลิตทางการเกษตรของผู้ประกอบการ ทั้งหมด 11 แห่ง ปรากฏว่า มีผู้ประกอบการที่ติดป้ายแสดงราคารับซื้อผลผลิตทางการเกษตร (พริก) เพียง 2 แห่ง เท่านั้น ทั้งนี้ ได้แนะนำผู้ประกอบการที่ไม่ได้ติดป้ายแสดงราคารับซื้อผลผลิตทางการเกษตรดังกล่าวให้ดำเนินการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อผลผลิตทางการเกษตรแล้ว
นายสุนทร เมธาสุวรรณกุล อายุ 43 ปี อยู่เลขที่ 6/152 หมู่ที่ 9 ต. รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ กล่าวว่า ตนปลูกพริกจำนวน 15 ไร่ ในพื้นที่บ้านรวมไทยพัฒนา 7 หมู่ที่ 3 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก ลงทุนไปประมาณ 300,000 บาท ต้นทุนค่าปุ๋ยค่ายาแพงมาก ช่วงแรกเมื่อปีที่แล้วพริกราคาไม่ดี เก็บพริกสด ซูปเปอร์ฮอต (super hot) ขายในราคา 10-20 บาท วันนี้ราคาดีขึ้นมาก เก็บพริกสดแดงขายราคา กก.ละ 50-60 บาท แต่ก็พบปัญหาแรงงานหายากมาก ค่าจ้างเก็บพริกราคากิโลละ 7 บาท ปัจจัยสำคัญช่วงนี้พริกเป็นโรคกุ้งแห้งให้ผลผลิตน้อยมาก
ปีนี้ถึงแม้ว่าพริกจะราคาดีมาก แต่ก็มีปัญหาอีกหลายๆ เช่นปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัญหาเกษตรกรปลูกกันมาก และบางรายได้ปลูกแบบทิ้งๆขว้างๆเพราะไม่รู้ว่าจะราคาตกต่ำเหมือนที่แล้ว พอช่วงนี้พริกราคาสูงจึงพบว่าผลผลิตออกน้อย และพริกเกิดปัญหาเป็นโรคดังกล่าว และเกษตรกรที่ปลูกพริกแล้วไม่ดูแลปล่อยทิ้งดังกล่าว พริกล้มตายไปจำนวนมาก จึงทำให้พริกขาดตลาดในช่วงนี้ นายสุนทร กล่าว
ด้านนายกิตติศักดิ์ แซ่เกอ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219หมู่ที่ 9 ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ บอกว่า ตนปลูกพริกในพื้นที่ ต.รวมไทยพัฒนา จำนวน 15 ไร่
ช่วงแรกๆเก็บพริกขาย กก.ละ 10-15 บาท แต่วันนี้เก็บพริกสดแดงขายได้กิโลกรัมละ 60 บาทเนื่องจากพริกของตนสวย จึงได้ราคาดีมาก แต่ต้นทุนที่ซื้อปุ๋ย ยา และฮอร์โมนก็ยังแพงอยู่ ได้ลงทุนไปช่วง 5 วัน 1 ครั้ง ครั้งละ 15,000 บาท ก็หวังว่าจะได้ทุนคืนและได้กำไรในการปลูกพริกในรุ่นนี้ เกษตรกรผู้ปลูกพริกกล่าว.
ร่วมแสดงความคิดเห็น