(มีคลิป) ดันเชียงรายจังหวัดต้นแบบโครงการเครือข่ายการขับเคลื่อนยุติปัญหาเอดส์ระดับจังหวัด หวังยุติปัญหาเอดส์ภายในปี พ.ศ. 2573

วันที่ 25 พ.ย. 64 นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการเครือข่ายการขับเคลื่อนยุติปัญหาเอดส์ระดับจังหวัด “Empowering & Coltaborating for Ending AIDS” มีนายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐ เอกชน องค์การมหาชน และบุคลากรหน่วยงานภาคีเครือข่ายการทำงานด้านเอชไอวี เข้าร่วมงานกว่า 100 คน ที่โรงแรมเฮอริเทจ จ.เชียงราย เพื่อเป็นเวทีในการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การดำเนินงานด้านเอดส์ของจังหวัดเชียงราย โดยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน เพื่อมุ่งสู่การเป็นจังหวัดยุติเอดส์ ภายในปี พ.ศ. 2573

นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การยุติเอดส์ในจังหวัดเชียงรายจะสำเร็จได้ตามเป้าหมายภายในปี พ.ศ.2573 นั้น ต้องอาศัยการขับเคลื่อนความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน โดยกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนปัญหาเอดส์จังหวัดเชียงราย 3 ประเด็นหลัก คือไม่ติด ไม่ตาย และไม่ตีตรา เพื่อลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ลดการเสียชีวิตและรักษาผู้ติดเชื้อทุกคนด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี รวมทั้งลดการเลือกปฏิบัติผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี โดยใช้หลักแนวคิด เข้าถึง ตรวจรักษา รู้วิธีป้องกัน และยังคงอยู่ในระบบการรักษาอย่างยั่งยืนต่อไป

นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าในช่วงสามปีที่ผ่านมา มีจำนวน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับรู้สถานะการติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 87 ในปี พ.ศ. 2561 ร้อยละ 98 ในปี พ ศ. 2563 จำนวนผู้ติดเชื้อที่ทราบสถานะการติดเชื้อเอชไอวีเข้าถึงบริการได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 79 ในปี พ.ศ. 2561 เป็นร้อยละ 83 ในปี พ.ศ. 2563 และผู้ติดเชื้อที่ได้รับยาด้านไวรัสเอชไอวีในกระแสเลือดได้สำเร็จ เพิ่มขึ้นร้อยละ 91 ในปี พ.ศ. 2561 เป็นร้อยละ 92 ในปี พ.ศ.2563 จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงโอกาสการพัฒนาด้านการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องที่เข้าใกล้เป้าหมาย “การเข้าถึงบริการ” ผู้ที่มีผลเลือดเอชไอวีเป็นบวกเข้าสู่ระบบการรักษาและได้รับยาต้านไวรัส และผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับยาต้านไวรัส สามารถลดปริมาณไวรัสในกระแสเลือดได้สำเร็จ ส่งผลให้มีผู้ป่วยมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ด้านนายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดี กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทยว่า ปี พ.ศ. 2564 พบว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี จำนวน 493,000 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 5,800 คน และมีผู้เสียชีวิตจากเอชไอวี จำนวน 11,200 คน การติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ประมาณร้อยละ 97 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน และยังพบว่าคนไทยยังมีทัศนคติที่เลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี ทั้งในครอบครัว สถานที่ทำงาน สถานศึกษาสูงถึงร้อยละ 26.7

กรมควบคุมโรค จึงได้สนับสนุนให้มีการขับเคลื่อนเครือข่ายทำงานเพื่อยุติเอดส์ในระดับจังหวัด เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการและพัฒนาระบบส่งต่ออย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งภาครัฐ เอกชน ให้ครอบคลุมทุกสิทธิประโยชน์ เพื่อให้เป็นจังหวัดต้นแบบในการยุติเอดส์ โดยส่งเสริมเรื่องการสร้างความรอบรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเอชไอวี ให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ลดพฤติกรรมเสี่ยงหรือปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการติดเชื้อเอชไอวี เสริมสร้างทัศนคติเชิงบวกในการอยู่ร่วมกันกับผู้มีเชื้อเอชไอวีได้อย่างปกติ เพื่อลดการตีตราและเลือกปฏิบัติ รวมทั้งขับเคลื่อนพัฒนาระบบและกลไกรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองการละเมิดสิทธิ์ต่อการเลือกปฏิบัติกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีอีกด้วย

ทั้งนี้ภายในงาน ยังมีกิจกรรมลดณรงค์วันเอดส์โลก โดยภาคีเครือข่ายและพิธีบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกรมควบคุมโรคกับจังหวัดเชียงราย และสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล(องค์การมหาชน) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการดำเนินการร่วมกันเพื่อมุ่งสู่การยุตติเองอีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น