จนท.ตรวจสอบ หนุ่มใหญ่สร้างบ้านพัก เขตป่าสงวนแห่งชาติ อ้างไม่รู้ว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายจึงรวบตัวดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ สกุลวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยกรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง นายเรวัตร เวียงทอง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ลำปาง นายจิตกร ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า นายสินธพ เรือนมั่น หัวหน้าฝ่ายป้องกันและรักษาป่า หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ลำปาง เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.10 (บ้านแลง) พร้อมกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ชุดที่ 1 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง เจ้าหน้าที่ส่วนป้องกัน และปราบปราม ที่ 3 ภาคเหนือ กรมป่าไม้ อำนวยการโดย นายศักรินทร์ ปัญญาใจ ผอ.ส่วนฯสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.4 บก.ปทส.) สายที่ 1 ลำปาง ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำปาง เข้าตรวจสอบการบุกรุกแผ้วถางป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ยาง-แม่อาง เหนือหมู่บ้าน บ้านวังชัยพัฒนาหมู่ 16 ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีบุคคลภายนอกหมู่บ้านเข้าไปแผ้วถางป่า ล้อมรั้วและสร้างบ้านพักอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
โดยพื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านได้ร่วมกันอนุรักษ์ไว้เพื่อให้ธรรมชาติคงและอีกทั้งเป็นพื้นที่ปกป้องแก้ไขปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นประจำทุกๆ ปี โดยเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่าพื้นที่ดังกล่าว มีการล้อมรั้วโดยรอบ มีประตูเปิดปิดด้วยแต่พบว่าประตูรั้วถูกเปิดไว้ทางเจ้าหน้าที่จึงขับรถไปในพื้นที่

เบื้องต้นพบมีการสร้างบ้านพัก 1 หลัง มีการแผ้วถางป่าเป็นพื้นที่กว้าง มีบ้านพักตากอากาศ 1 หลัง อำพรางด้วยการนำไม้ไผ่มาตีปิดบังหน้าบ้านไว้ เพื่อให้ใครผ่านไปมาคิดว่าเป็นเพิงพักเล็กๆ มีการเพาะปลูกกล้าต้นผลไม้จำนวนหนึ่ง และพบชายไทย 1 ราย เข้าแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของพื้นที่แห่งนี้ ทราบชื่อคือนายวรวรรฒ อายุ 48 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามเอกสารสิทธิ์การครอบครองพื้นที่แห่งนี้ แต่ทาง นายวรวรรฒ ไม่สามารถเอามาแสดงได้ เพราะไม่มีเอกสารสิทธิ์ และอ้างว่าได้ซื้อมาจากชาวบ้านในพื้นที่ โดยหลังจากซื้อมาแล้วได้เข้ามาปรับพื้นที่และทำการสร้างที่พักเอาไว้เพื่อรอทำการเกษตรต่อไป และมาถูกจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบและใช้ ระบบ GPS ระบุสถานที่และขนาดพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุก พบว่ามีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯถูกบุกรุกไปทั้งหมด 3 ไร่เศษ มูลค่าความเสียภายภาครัฐประมาณ 220,000 บาท ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ ก่อนที่จะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองลำปาง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น