การปราบปรามและจับกุมยาบ้า ในพื้นที่แนวชายแดนภาคเหนือ กว่า 2,300,000 เม็ด (3-4 ธันวาคม 2564)

ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้มีนโยบายให้มีการบูรณาการงานด้านการข่าวเพื่อความมั่นคงของพลเรือน ตำรวจ ทหาร และทุกภาคส่วน ในการดำเนินการ สกัดกั้น ปราบปราม และจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดน จนถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ นั้น มีการจับกุมที่สำคัญ ดังนี้


เหตุการณ์ที่ 1 เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 11.50 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองบังคับการควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง กำลังปฏิบัติงานที่จุดตรวจ/จุดสกัด บนถนนทางขึ้น-ลงจากภูเขาในพื้นที่บ้านสามแยก ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย อยู่นั้น ได้พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน ผู้ขับเป็นชายชาวไทยผ่านเข้ามาที่จุดตรวจท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถแล้วขอทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นรถยนต์พบ ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ในห่อกระดาษพันทับด้วยเทปพลาสติก สีดำซุกซ่อนอยู่ตามส่วนประกอบด้านในของตัวถังรถ จำนวน 220 ห่อ รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 440,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดยาบ้าของกลางพร้อมกับควบคุมตัวผู้ขับรถนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2564 ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทหาร ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากชายแดนภาคเหนือผ่านพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ หมายเลขทะเบียนจังหวัดชลบุรี เป็นพาหนะ จึงจัดกำลังพลจาก กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ ร่วมกันตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดอยู่บนถนนในพื้นที่บ้านทุ่งเกลี้ยง ตำบลศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ต่อมาในวันเดียวกันเวลาประมาณ 04.35 น. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ต้องสงสัยตรงตามที่ได้รับรายงานมาขับผ่านเข้ามาที่จุดตรวจ จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวไม่หยุดและเร่งเครื่องยนต์ขับฝ่าจุดตรวจหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้ขับรถไล่ติดตามไป จนกระทั่งไปเจอรถคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ข้างถนนสายแม่สาย – เชียงแสน ในพื้นที่ บ้านเวียงแก้ว ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยผู้ขับขี่สามารถหลบหนีไปได้ จากการตรวจค้นภายในรถพบ กระสอบ จำนวน 8 ใบ ภายในกระสอบบรรจุยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 384,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 74 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึด ยาเสพติดดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


เหตุการณ์ที่ 3 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 15.15 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง กำลังลาดตระเวนตรวจพื้นที่เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศไทย มาตามแนวป่าห่างจากชายแดนประมาณ 4 กิโลเมตร ในพื้นที่หมู่บ้านผาฮี้ ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นั้น ได้ตรวจพบ กลุ่มคนประมาณ 8 – 10 คน ถืออาวุธปืนยืนเฝ้ากองวัตถุบางอย่างอยู่ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณแสดงตนเพื่อจะทำการตรวจค้น ปรากฏว่าเมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร จึงใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด และขนาดยิงมาทางเจ้าหน้าที่พร้อมกับพากันวิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ป้องกันตนเองนานประมาณ 10 นาที หลังจากการปะทะยุติลง ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่กลุ่มคนดังกล่าวสามารถหลบหนีไปได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจจุดเกิดเหตุปะทะกันนั้นพบ กระสอบดัดแปลงใส่สายสะพายเป็นเป้ จำนวน 10 ใบ ภายในกระสอบบรรจุยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,530,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือมีเบาะแสข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขอความกรุณาได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการปราบปรามและจับกุม อย่างเป็นรูปธรรมตามกฎหมาย อีกทั้งหากพี่น้องประชาชนมีความประสงค์จะส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยตรง ให้กับ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบ Applications Line ชื่อ “สายตรงแม่ทัพภาคที่ 3” ID Line : ISOC3 เพื่อรับทราบข้อมูลและนำไปสู่การปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย สร้างความมั่นคงให้สังคมไทยสืบไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น