(มีคลิป) บุกจู่โจมจับ 4 หนุ่มชาวแพร่ ลักลอบขนไม้เถื่อนกลางดึกในป่าสงวนแห่งชาติร พร้อมของกลางคาหนังคาเขา อ้างแค่รับจ้าง

เวลา 01.30 น. วันที่ 9 ธันวาคม 2564 นายสมศักดิ์ สกุลวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยกรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง นายเรวัตร เวียงทอง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ลำปาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.20 (แม่หวด) หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.19 (แม่โป่ง) เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันแลปราบปราม ที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.4 บก.ปทส.) สายที่ 1 ลำปาง ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ภ.จว.ลำปาง ตำรวจ ตชด.33 เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ได้ควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาลักลอบตัดและชักลากไม้เถื่อน ประดู่ป่า ได้ผู้ต้องหา 4 คน ทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดแพร่ คือนายสมควร อายุ 47 ปี นายดนัย อายุ 50 ปี นายศักดิ์ดา อายุ 33 ปี และนายวิสุทธิ์ อายุ 57 ปี ทั้งหมดเป็นชาวบ้านตำบลเวียงทอง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ พร้อมด้วยรถยนต์กระบะของกลางที่ใช้ในการบรรทุกไม้เถื่อนเป็นยนต์ยี่ฮ้อ มาสด้า รุ่น BT 50 หมายเลขทะเบียน  แพร่ ไม้ของกลางเป็นไม้ห้วงห้าม ประดู่ จำนวน 5 ท่อน มูลค่าเสียหายภาครัฐกว่า 5 หมื่นบาท

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณป่าทางด้านทิศตะวันออกบ้านขุนแม่หวด หมู่ 4 ตำบลบ้านหวด อำเภองาว จังหวัดลำปาง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งขวา ซึ่งในที่เกิดเหตุพบต้นประดู่ถูกตัดโค่นไป 1 ตันและมีเศษซากไม้กระจัดกระจายและพบว่า ที่ลำต้นประดู่มีการกานรอบลำต้นเพื่อให้ยืนต้นตาย ก่อนที่กลุ่มมอดไม้จะเข้ามาลักลอบตัดและลำเลียงออกไปโดยมีไม้บางส่วนถูกลักลอบขนออกจากพื้นที่ไปแล้วบางส่วน


เบื้องต้นจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่ารับจ้างขนไม้จำนวนดังกล่าวไปแล้ว 1 เที่ยว และกำลังจะขนไปอีกเที่ยวแล้วมาถูกจับกุม ซึ่งในการรับจ้างครั้งนี้นายสมควร ให้การว่าตนเองได้รับการว่าจ้างให้มาขนไม้ในพื้นที่แหงนี้เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 ในราคาเที่ยวละ 1 พันบาท และว่าจ้างคนอื่นมาช่วยอีกคนละ 300-500 บาทต่อเที่ยว ซึ่งระหว่างเข้าพื้นที่มีชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งไม่รู้จัก เป็นคนนำทางและให้มาเอาไม้ขึ้นรถแต่ระหว่างที่กำลังลำเลียงไม่อยู่นั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าจู่โจมจับกุมไม่สามารถหลบหนีไปได้ส่วนชาวบ้าน 2 คนที่นำทางมาอาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหนีหายเข้าไปในป่า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.งาว ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันตัดโค่น ตัดทอนต้นไม้ ครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่มีหลักฐานการได้มาที่ถูกต้องตามกฎหมายจึงเป็น การกระทำความผิด พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ฐาน “ร่วมกันทำไม้ หรือทำ อันตรายด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” ,มาตรา 69 ฐาน “ร่วมกันมีไม้หวงห้ามอันยัง มิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” มาตรา 70 ฐาน”ผู้ใด รับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิด นั้น” พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559 มาตรา 14 ฐาน “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกันทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการ เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

ร่วมแสดงความคิดเห็น