ปภ.แนะ 12 พฤติกรรมการขับรถอย่างถูกวิธี-ช่วยยืดอายุการใช้งานรถ…ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

พฤติกรรมการขับรถ นอกจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของรถแล้ว ยังทำให้การขับรถ
มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะ 12 พฤติกรรมการขับรถที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ ดังนี้

  1. อุ่นเครื่องยนต์ก่อนขับขี่ เพื่อเป็นการวอร์มให้เครื่องยนต์และน้ำมันเครื่องอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการทำงาน จึงช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์
  2. ไม่เร่งเครื่องอย่างรุนแรงเมื่อสตาร์ทรถ เพราะในช่วงสตาร์ทเครื่อง ระบบจะส่งน้ำมันไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆ
    ของรถ หากเร่งเครื่องอย่างรุนแรง จะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติ
  3. ชะลอความเร็วเมื่อขับผ่านเนินหลังเต่า จะช่วยป้องกันระบบช่วงล่างของรถมิให้กระแทกกับพื้นถนน เพราะอาจส่งผลให้โช๊คอัพ สปริง ลูกหมาก หรือปีกนกได้รับความเสียหาย
  4.  ไม่คิกดาวน์ เพื่อเร่งแซง โดยเพิ่มความเร็วด้วยการกดคันเร่งจนมีการทดอัตราเกียร์ให้ต่ำลง แม้จะช่วยให้รถ มีกำลังเพิ่มขึ้นในช่วงที่ต้องเร่งแซงหรือใช้ความเร็วสูง แต่ทำให้เกียร์เกิดการกระชาก ส่งผลให้ชุดเกียร์มีอายุการใช้งานสั้นลง
  5. ใช้เกียร์ต่ำขณะขับรถลงเขาหรือทางลาดชัน จะช่วยรักษาระดับความเร็วรถ ทำให้มีแรงฉุดกำลังรถ หากใช้เบรก
    ในการรักษาความเร็ว จะส่งผลให้เบรกเกิดความร้อนสูง ผ้าเบรกไหม้ และเกิดอุบัติเหตุได้
  6. เปลี่ยนเกียร์เมื่อรถหยุดสนิท เพราะการเปลี่ยนเกียร์ถอยหลังหรือเดินหน้าในขณะที่รถวิ่ง จะส่งผลต่อการทำงานของระบบขับเคลื่อนและระบบส่งกำลังของรถ ทำให้ชุดเกียร์ เครื่องยนต์ และเพลาขับได้รับความเสียหาย จึงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถ
  7. ไม่ใช้เกียร์เป็นที่พักมือ แม้การพักมือค้างไว้บนหัวเกียร์ จะทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว แต่ส่งผล
    ทำให้ระบบเกียร์สึกหรอและเหลือมือเพียงข้างเดียวในการบังคับพวงมาลัย เพื่อความปลอดภัย ควรวางมือทั้งสองข้างบนพวงมาลัย จะช่วยให้สามารถบังคับและควบคุมทิศทางรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  8. ใช้เบรกมือขณะจอดรถบนทางลาดชัน เมื่อจอดรถบนทางลาดชันควรใช้เบรกมือก่อนเข้าเกียร์ P ทุกครั้ง
    เพื่อป้องกันสลักเกียร์ หรือเฟืองขับหลักต้องรับน้ำหนักของรถมากเกินไป ส่งผลให้ระบบเกียร์ได้รับความเสียหาย
  9. ไม่เหยียบคลัตช์ขณะรถจอดติดสัญญาณไฟจราจร แม้การเหยียบคลัตช์จะช่วยให้รถออกตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ทำให้ชุดเกียร์สึกหรอเร็วกว่าปกติ จึงควรปล่อยเท้าออกจากคลัตช์และเข้าเกียร์ว่างเมื่อรถจอดอยู่กับที่ พร้อมเหยียบคลัตช์อีกครั้งเมื่อรถออกตัว
  10. ไม่บรรทุกน้ำหนักมากเกินไป เพราะการบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป ส่งผลต่อเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบกันสะเทือน อีกทั้งทำให้เบรกทำงานหนักและมีอายุการใช้งานสั้นลง จึงส่งผลต่อการทรงตัวและการหยุดรถ
  11. ไม่ปล่อยให้น้ำมันอยู่ในระดับต่ำ เพราะการปล่อยให้น้ำมันอยู่ในระดับต่ำหรือเกือบหมดถัง ทำให้ปั๊มน้ำมันที่ต้องมีน้ำมันหล่อเลี้ยงตลอดเวลามีอายุการใช้งานสั้นลง
  12. ปิดแอร์ทุกครั้งที่ดับเครื่องยนต์ แม้ปัจจุบันรถจะมีระบบตัดไฟฟ้าขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ จึงไม่ทำให้กระแสไฟกระชาก แต่การปิดแอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ จะทำให้โบลว์เออร์เป่าลมหยุดการทำงานชั่วคราว และเมื่อสตาร์ทรถติดแล้ว รีเลย์จะชะลอการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ประมาณ 1-2 นาที ส่งผลให้เปลืองไฟจากแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานสั้นลง

ทั้งนี้ เพื่อให้รถมีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น นอกจากผู้ขับขี่ต้องหมั่นดูแลรักษารถ เปลี่ยนอุปกรณ์ประจำรถและนำรถไปตรวจสอบสภาพกับศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถตามวงรอบและระยะเวลาที่กำหนดแล้ว พฤติกรรมการขับขี่
อย่างถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ และเพิ่มประสิทธิภาพในการขับรถ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ร่วมแสดงความคิดเห็น