(มีคลิป) หวั่นโคเถื่อนข้ามชาตินำโรคเข้ามาระบาดในไทย

หวั่นโรคระบาดในสัตว์ จากประเทศเมียนมาร์ ระบาดเข้ามาในไทย หลังนักท่องเที่ยวพบรถบรรทุกโค/กระบือ ออกจากแม่ฮ่องสอนไปยังเชียงใหม่ คาดเป็นการลักลอบนำเข้าและซิกแซกนำออกไปขายที่เชียงใหม่ ซึ่งจะทำให้หากเกิดการผิดพลาดขึ้นมาอาจจะทำให้มีการระบาดของโรคในสัตว์กระทบต่อสัตว์เลี้ยงในไทยอย่างรุนแรง

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 เวลา 20.20 น. นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในแม่ฮ่องสอน ขณะเดินทางกลับ ออกจาก อ.ปาย เพื่อไปยัง เชียงใหม่ เมื่อไปถึงด่านตรวจแม่ยะ เขตพื้นที่ อ.ปาย ซึ่งเป็นด่านความมั่นคง ระหว่าง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กับ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้พบกับรถบรรทุก 2 คัน บรรทุกโค/กระบือ วิ่งผ่านด่านดังกล่าว มุ่งหน้าไปยัง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยรถบรรทุกสัตว์ทั้ง 2 คัน เมื่อถึงด่านตรวจได้จอดชั่วขณะและเห็นเจ้าหน้าที่นายหนึ่ง วิ่งเข้าไปหาคนขับรถ จากนั้น รถบรรทุกสัตว์ได้วิ่งผ่านไปอย่างสะดวก

แหล่งข่าวนักท่องเที่ยว ( ขอสงวนนาม ) ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคในสัตว์โดยเฉพาะ โรคลัมปีสกิน ในไทย ทำให้กรมปศุสัตว์ ได้มีหนังสือคำสั่งห้ามนำเข้าสัตว์จาก สหภาพเมียนมาร์ เนื่องจากในพื้นที่ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ยังไม่มีรายงานการปลอดโรคลัมปี สกิน (Self-declaration for the recovery of country freedom from Lumpy skin disease) จากองค์การสุขภาพสัตว์โลก (World Organisation for Animal Health (OIE) ซึ่งโรคระบาดสัตว์ดังกล่าวสามารถแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางได้ โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการเคลื่อนย้ายสัตว์ป่วยหรือสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคหรือซากของสัตว์ซึ่งป่วยหรือตายโดยโรคระบาดสัตว์ดังกล่าวไปยังท้องที่ต่าง ๆ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้โรคระบาดสัตว์ดังกล่าวแพร่กระจายเข้ามาซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงโคและกระบือในประเทศ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ อธิบดีกรมปศุสัตว์จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑ ให้ชะลอการนำเข้าหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งโค กระบือ หรือซากโค ซากกระบือ ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
ข้อ ๒ ประกาศฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับได้เป็นเวลาเก้าสิบวันนับตั้งแต่วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์

แหล่งข่าวพ่อค้าโค/กระบือในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ได้มีกลุ่มขบวนการค้าโคเถื่อนจากพม่า ข้ามชาติเข้าไทยที่ แม่ฮ่องสอน โดยมีการลักลอบลำเลียงโคและกระบือ จากบ้านหัวเมือง สหภาพเมียนมาร์ เข้ามาในไทย บริเวณช่องทางบ้านดอยคู , บ้านปางคอง , บ้านดอยคู ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า โดยมีการลักลอบทยอยไล่ต้อนสัตว์ ครั้งละไม่กี่สิบตัว หลบด่านของเจ้าหน้าที่ จากนั้นจะนำมาฝากเลี้ยงกับราษฎรในพื้นที่ โดยกระจายเลี้ยง เป็นบริเวณกว้าง ส่วนใหญ่จะเลี้ยงที่บ้านไม้ซางหนาม ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า และบ้านห้วยส้านนอก ต.ห้วยผา อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จากนั้นก็จะทำตั๋วรูปพรรณสัตว์ปลอม แล้วอ้างว่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงในไทย และลำเลียงส่งออกไปยังเชียงใหม่ ทั้งนี้ โคและกระบือในพม่า จะเป็นคนละสายพันธุ์กับสัตว์ในไทย สามารถมองด้วยตาก็ทราบทันทีว่าเป็นโคจากพม่า หรือในไทย คือโคในพม่าจะเป็นโคพันธุ์ผสมบรามัน มีสีขาวหม่น บางตัวขาวหม่นปนดำ มีลักษณะผอมตัวใหญ่ และมีเฉพาะตัวผู้เท่านั้น ( พม่าไม่ยอมจำหน่ายตัวเมีย ) ขณะที่โคในไทย จะเป็นโคพันธุ์พื้นเมือง มีสีแดง ตัวเล็กกว่าโคพม่าเกือบครึ่ง

กลุ่มขบวนการค้าโคเถื่อนดังกล่าวประกอบด้วย นาย ป.พ่อค้าโค จาก จ.อยุธยา เข้าไปรับซื้อโคจากชาวพม่าที่บ้านหัวเมือง โดยพบว่า ปัจจุบัน มีโคในพม่า รอทะลักเข้าไทยจำนวนประมาณ 12,000 ตัว ถูกเลี้ยงไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวินที่ ท่าสบเต็ง ท่าข้ามแม่น้ำสาละวิน และมีบ้างส่วนถูกลำเลียงมาไว้ที่บ้านหัวเมือง , บ้านเมืองใหม่ และบ้านนามน ซึ่งติดแนวชายแดนไทยด้าน พื้นที่อ.ปางมะผ้า และ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ส่วนโคที่ถูกลอบลำเลียงเข้ามาในไทยแล้ว มีประมาณ 1,000 ตัว บางส่วนได้ถูกลักลอบส่งไปเชียงใหม่แล้วไม่ต่ำกว่า 200 ตัว ( ในห้วงเดือน พฤศจิกายน / ธันวาคม ) สำหรับนาย ป.พ่อค้าโค ที่กล่าวมาข้างต้น มีนายทุนที่ร่วมทุน ชื่อ พ.ท. ต.เป็นสมาชิกระดับสูงของกองกำลังชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่งในรัฐฉาน ซึ่งมีคอกโคที่ บ้านหนองปลามัน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ในส่วนของต้นทุนโคในพม่า ตกราคาตัวละ 28,000 -35,000 บาท ถ้านำมาจำหน่ายในไทย ตกราคาตัวละ 40,000 – 50,000 บาท บางส่วนจะถูกส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์ที่เชียงใหม่และส่วนใหญ่จะเลี้ยงขุนเพื่อส่งไปจีน

ร่วมแสดงความคิดเห็น