FPT ได้ฤกษ์เปิดใช้ระบบท่อ ขนส่งน้ำมันสายเหนือ บางปะอิน-นครลำปาง

FPT ได้ฤกษ์เปิดใช้ระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ บางปะอิน-นครลำปาง เสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

วันนี้ (17 ธันวาคม 2564) นายพลากร สุวรรณรัฐ ประธานกรรมการ บริษัท บริ การเชื้อเพลิงการบิน กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) เป็นประธานในพิธีเปิดระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ (บางปะอิน-นครลำปาง) ซึ่งเป็นระบบท่อขนส่งน้ำมันที่ยาวที่สุดและทันสมัยที่สุดของประเทศ โดยมี ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล ประธานกรรมการบริหาร และ ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายลอยเลื่อน บุนนาค ประธานคณะกรรมการบริหาร โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมัน และคลังน้ำมันไปภาคเหนือ นายเจริญ จารุไสลพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อจำกัด (FPT)ร่วมในพิธี ณ คลังน้ำมันนครลำปาง จังหวัดลำปาง


นายพลากร สุวรรณรัฐ ประธานกรรมการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุง เทพ จำกัด (มหาชน)(BAFS) กล่าวว่า โครงการระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ เป็นโครงการที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ ของกระทรวงพลังงาน ที่มอบ หมายให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการในโครงการนี้ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิ ภาพการขนส่งน้ำมัน และเสริมสร้างความมั่นคง ด้านพลังงานของประเทศ ช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากรถบรรทุกน้ำมัน ลดมลพิษ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งเป็นการรองรับการเจริญเติบโต ของการเปิดท่าอากาศยานแห่งใหม่ทางภาคเหนือ การพัฒนาประเทศด้านการขนส่งพลังงาน และรองรับเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเชียน (AEC)

จึงเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่โครงการระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ อันเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งพลังงานของประเทศที่สำคัญนี้ ได้ก่อสร้างแล้วสร็จสมบูรณ์และพร้อมเปิดให้บริการได้ ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาและอุปสรรคมากมายเพียงไร เราจะต้องทำโครงการนี้ให้สำเร็จ โดยยึดพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแบบอย่างที่ว่า “การจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ให้ยึดถือผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นสำคัญ”


พิธีเปิดระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ (บางปะอิน-นครลำปาง) ในครั้งนี้ นับเป็นการเปิดให้บริการครบทั้งโครงการ ประกอบด้วย โครงการระยะที่ 1 ส่วนต่อขยายจากท่อขนส่งน้ำมันเดิมของ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อจำกัด (EPT) จากคลังน้ำมันบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปยังคลังน้ำมันพิจิตร อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร (บางปะอิน-กำแพงแพชร -พิจิตร) ระยะทาง 367 กิโลเมตร เพื่อให้บริการน้ำมันในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และระยะที่ 2 จากสถานีเพิ่มแรงดันและแยกระบบท่อกำแพงเพชร ไปยังคลังน้ำมันนครลำปาง อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง (กำแพงเพชร-ลำปาง) ระยะทาง 209 กิโลเมตร เพื่อให้บริการน้ำมันในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน รวมระยะทางทั้งสิ้น 576 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระบบท่อขนส่งน้ำมันที่ยาวที่สุดในประเทศ โดยมีความสามารถในการขนส่งน้ำมันได้ 9,000 ล้านลิตรต่อปี

ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) (BAFS) กล่าวว่า โครงการก่อสร้างระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือ เป็นโครงการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ภาคเอกชน เป็นผู้ดำเนินการและอยู่ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของรัฐบาล กระทรวงพลังงาน จึงมีข้อตกลงให้กลุ่มบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS Group เป็นผู้ลงทุนกว่า 10,900 ล้านบาท (หนึ่งหมื่นเก้าร้อยล้านบาท) โดยมี FPT ซึ่งเป็นบริษัทในเครือและเป็นผู้ให้บริการขนส่งน้ำมันทางท่อมากว่า 30 ปี เป็นผู้บริหารระบบท่อขนส่งน้ำมัน และคลังน้ำมันที่สามารถขนส่งน้ำมันอากาศยาน น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน น้ำมันเบนซินพื้นฐานออกเทน 91 และ 95 ในท่อเดียวกัน

โครงการระบบท่อขนส่งน้ำมันสายหนือ นับเป็นท่อขนส่งน้ำมันที่ยาวที่สุดและทันสมัยที่สุดของประเทศ ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มบริษัท โดยแม้โครงการจะให้ผลตอบแทนทางการเงินที่ต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมสูงมาก ด้วยการขนส่งน้ำมันทางท่อ เป็นการขนส่งที่ใช้ไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมัน


จึงทำให้ได้ Carbon Credit จากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่ต่ำกว่า 30,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี รวมทั้งลดการเกิดฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 และช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการขนส่งน้ำมัน ด้วยรถบรรทุกน้ำมันและลดความเหลื่อมล้ำของราคาน้ำมัน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ มีโอกาสใช้น้ำมันในราคาที่ใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ อีกทั้งคลังน้ำมันพิจิตรและคลังน้ำมันนครลำปาง จะเป็นยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญในด้านการเก็บสำรองน้ำมัน และรองรับการเจริญเติบโตของภาคเหนือ รวมทั้งเป็นจุดจ่ายน้ำมันที่สำคัญไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การส่งออกน้ำมันจากไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านมีความสะดวก รวดเร็วขึ้น

นายลอยเลื่อน บุนนาค ประธานคณะกรรมการบริหาร โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันและคลังน้ำมันไปภาคเหนือ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด กล่าวถึงการดำเนินโครงการนี้ด้วยความภาคภูมิใจว่า โครงการขนาดใหญ่มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท มีระยะทางถึง 576 กิโลเมตร สำเร็จลงได้ เพราะทุกคนทุ่มเทเสียสละ ร่วมแรงร่วมใจทำงานกันอย่างเต็มความสามารถ โดยยึดหลักว่าการทำงานทุกอย่างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้คุ้มค่าที่สุด และด้วยการทำงานเป็นทีมอย่างมืออาชีพ ช่วยทำให้สามารถควบคุมทั้งระยะเวลาโครงการ และงบประมาณที่ได้รับอนุมัติมาให้อยู่ในเป้าหมายตามที่บริษัทกำหนด

ร่วมแสดงความคิดเห็น