เมื่อวันที่ 17 ธัยวาคม 64 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติจังหวัดน่าน ประจำปี 2564 เพื่อแสดงความรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสำนึกถึงคุณค่าของการกีฬา ตามพระราชดำรัสของพระองค์ท่านที่ว่า “กีฬามีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับชีวิตของแต่ละคนและชีวิตของบ้านเมือง” รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้ประชาชน และเยาวชนของจังหวัดน่านได้เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการออกกำลังกาย โดย นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้เยี่ยมชมนิทรรศการเพื่อน้อมรำลึกถึงวันสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ทางการกีฬา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 9 และเพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในพระราชกรณียกิจ การสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชการที่ 9
เพื่อสานต่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนและประเทศชาติ โอกาสนี้ นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้มอบรางวัลให้แก่ทีมชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลชาย 7 คน รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี และนายสาทิต บุญทอง นายกสมาคมกีฬาจังหวัดน่าน ได้มอบรางวัลให้แก่ทีมชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลชาย 7 คน รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี จากนั้นได้ร่วมทำการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสามัคคี ระหว่างทีม VIP จังหวัดน่าน พบกับทีม VIP สมาคมกีฬาจังหวัดน่าน
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2529 เห็นชอบให้วันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันกีฬาแห่งชาติ เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ทางการกีฬา ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นนักกีฬาตัวแทนทีมชาติไทย ในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 ณ กรุงเทพมหานคร และทรงชนะเลิศได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาเรือใบประเภท โอ.เค.ในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 เมื่อปี 2510 จังหวัดน่านโดยสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย
จังหวัดน่าน และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมวันกีฬาแห่งชาติ จังหวัดน่าน ประจำปี 2564ขึ้น เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นตัวแทนของนักกีฬาทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ทางการกีฬาของประเทศไทย โดยพระราชกรณียกิจของพระองค์ทางการกีฬานี้ เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลกว่า พระองค์ทรงเป็นนักกีฬาอย่างแท้จริง และทรงสนับสนุนกีฬาจนเป็นที่ปรากฏชัด อีกทั้งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ยังเป็นการสนองนโยบายรัฐบาล ในการส่งเสริมทางด้านกีฬาไทยด้วยดีเสมอมา เพราะตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของการเล่นกีฬา นอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง การกีฬายังเป็นเครื่องช่วยผ่อนคลายความเครียด ช่วยปรับปรุงในด้านความคิดและอุปนิสัยให้ประชาชนในชาติ เป็นผู้มีความเสียสละ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และมีความสามัคคีต่อกัน
ร่วมแสดงความคิดเห็น