ข่าวปลอม!! ส่งข้อความทักทายเป็นรูป หรือภาพเคลื่อนไหว ทำให้ถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว

วันที่ 17 ธ.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีข้อความปรากฏในโซ เชียลมีเดีย เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ส่งข้อความทักทายเป็นรูปหรือภาพเคลื่อนไหว ทำให้ถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการเผยแพร่ข้อมูลว่า การส่งข้อความเป็นรูปหรือภาพเคลื่อนไหว เสี่ยงถูกล้วงข้อมูลส่วนตัวได้ โดยมีนักเจาะข้อมูล (hackers) ได้ออกแบบรูปภาพ และภาพเคลื่อนไหว เพื่อซ่อนรหัสเจาะข้อมูลไว้ในรูปภาพดังกล่าว เมื่อนำภาพเหล่านั้นไปใช้ส่งต่อผ่านโซเชียลมีเดีย จะทำให้ขโมยข้อมูลส่วนตัวจากอุปกรณ์ของคุณได้ ทางสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบันยังไม่พบรายงานการเจาะระบบ หรือการเข้าถึงข้อมูลโดยมิชอบจากการส่งข้อความเป็นภาพหรือภาพเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.egov.go.th หรือโทร 02-1416747

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ในปัจจุบันยังไม่พบรายงานการเจาะระบบ หรือการเข้าถึงข้อมูลโดยมิชอบจากการส่งข้อความเป็นภาพหรือภาพเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น